นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไอเฟค ได้ให้ความสำคัญอุตสาหกรรมธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์มาอย่างต่อเนื่อง โดย ไอเฟค มีบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ

    “โดยบริษัทในเครือของไอเฟคทั้งหมดที่ทำการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานอาทิตย์นั้น ได้มีการทำสัญญาซื้อขายไฟกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ระดับแรงดัน 22,000 โวลท์ ซึ่งมีทั้งหมด 13 บริษัท โดยมีทั้งหมด 16โรงไฟฟ้า ครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ รวมถึงการขยายออกไปสู่อาเซียนของไอเฟค” นายวิชัย กล่าว
ทั้งนี้ โรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ของไอเฟค ประกอบด้วย ( 1.) บริษัท แม่สะเรียง โซลา จำกัด ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งจะมีทั้งหมด 3 โรงไฟฟ้า ประกอบด้วย MS 1 MS2 และ MS3โดยบริษัทนี้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุดทั้ง 3 สัญญารวม 3 เมกะวัตต์ ส่วน ( 2.) บริษัท ซีอาร์ โซลาร์ จำกัด อยู่ในจังหวัดลำปาง ได้ทำสัญญาตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 1 เมกะวัตต์ (3.) บริษัท สหภูมิ โซล่าร์พาวเวอร์ จำกัด อยู่ในจังหวัดหนองคายได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 1 เมกะวัตต์ (4.) บริษัท สมประสงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จังหวัดอุดรธานี ได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณ พลังไฟฟ้าสูงสุด 1 เมกะวัตต์ (5.) บริษัท วังการค้ารุ่งโรจน์ จำกัด จังหวัดขอนแก่น ได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 1 เมกะวัตต์ (6.) บริษัท วี.โอ. เน็ตไบโอดีเซล เอเซีย จำกัด จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 1 เมกะวัตต์ (7.) บริษัท สแกน อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จังหวัดลพบุรี ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุดทั้ง 2 สัญญารวม 2.5 เมกะวัตต์ (8.) บริษัท อีสเอนเนอร์จี จำกัด จังหวัดนครราชสีมา ได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 2 เมกะวัตต์ (9.) บริษัท เจ.พี. โซล่า พาวเวอร์ จำกัด จังหวัดสุรินทร์ ได้โดยตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 3 เมกะวัตต์ (10.) บริษัท ยูนิเวอร์แซลโพรไวเดอร์ จำกัด จังหวัดศรีสะเกษ ได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 3 เมกะวัตต์ (11.) บริษัท กรีน เอนเนอร์จี เทคโนโลยี อิน(ไทยแลนด์) จำกัด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ตกลงขายพลังงานไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 1 เมกะวัตต์ (12.) บริษัท ซันปาร์ค จำกัด ประกอบด้วย SP 1 และ SP 2 รวมโรงไฟฟ้าแห่งละ 1 เมกะวัตต์ รวมทั้งหมด 2 เมกะวัตต์ (13.) บริษัท ภูพานเทคโนยี่ จำกัด อีก 1 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม ไอเฟค ยังมีโรงไฟฟ้า ในกัมพูชา อีก 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท ไอเฟค แคมโบเดีย จำกัด

(กำปงสะปือ) พนมเปญ

    นายวิชัย กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่า แม้ไอเฟค จะเผชิญปัญหาหรืออุปสรรค์ต่างๆ แต่ตนเอง คณะกรรมการ ทีมผู้บริหารระดับสูง และทีมงานของไอเฟคที่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบันกว่า 60-70 ชีวิต ต่างก็พร้อมใจและประสานมือกันก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ร่วมกัน และเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานจากแสงอาทิตย์อย่างไม่หยุดยั้ง
“โรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของไอเฟคทุกแห่ง ยังคงเดินเครื่องทำงานปกติ ส่วนธุรกิจด้านอื่นที่บริษัทดำเนินการอยู่ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมและโรงไฟฟ้าจากการกำจัดชีวมวลและการจำกัดขยะ ยังคงเดินหน้าและดำเนินธุรกิจปกติ”
นอกจากนี้ นายวิชัย ยังกล่าวย้ำด้วยว่า ขอให้นักลงทุน และผู้ถือหุ้นไอเฟค โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย มั่นใจว่า ไอเฟค จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างเต็มที่ และเน้นคุณภาพ เนื่องจากไอเฟคมีทีมงานที่เพียบพร้อมไปด้วยศักยภาพ ขณะเดียวกัน ไอเฟค ก็จะระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีความเสี่ยง และไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อบริษัท
    “ผมขอยืนยันว่า โรงไฟฟ้าของไอเฟคทุกแห่ง ที่ดำเนินการอยู่ยังคงสร้างรายได้ และเดินหน้าธุรกิจอย่างเต็มที่ และผมขอให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่า ไอเฟค จะกลับมาเป็นผู้นำพลังงานสะอาดอย่างแน่นอน”นายวิชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน นายวิชัย ยังกล่าวต่อว่า ไอเฟค ยังให้เดินหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตรระยะที่ 1 ซึ่งโครงการนี้ บริษัท สแกน อินเตอร์ฟาร์อีสเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ได้ร่วมลงทุนกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. กรุงเทพมหานคร โดยมีขนาดกำลังผลิต 5 MWp ระดับแรงดัน 24 กิโลโวลต์
   สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าหนองจอก ทาง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.ได้อนุมัติให้ COD เรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ในขั้นตอนการทำเอกสาร
“โดยโครงการนี้ได้ทำประชาพิจารณ์กับประชาชน และชุมชนในบริเวณดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว”
โครงการโรงไฟฟ้าที่หนองจอกนั้น ได้มีการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าให้การไฟฟ้าทั้งหมด 5.66 เมกะวัตต์ ดังนั้นหลังจากสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้จะทำให้บริษัทมีรายได้จากส่วนนี้ต่อเดือน 2.5 ล้านบาท