นายดนัย เรืองสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการทางหลวงระหว่างประเทศ กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อท่าอากาศยานอู่ตะเภา วงเงินรวม 4,508 ล้านบาท ระยะทางรวม 1.92 กิโลเมตร โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาจัดหาแหล่งเงินกู้ และดำเนินการปรับรายละเอียดโครงการให้ตรงกับนโยบายความต้องการ เช่น นโยบายลดโลกร้อนเพื่อให้สอดคล้องกับ BCG Economy Model งานก่อสร้างอาจต้องปรับเป็นการใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกเพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถช่วยลดภาวะก๊าซเรือนกระจก

ขณะที่การเวนคืนที่ดินต้องไม่กระทบต่อผู้ที่เคยอยู่อาศัยเดิม ซึ่งหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2565 ได้มีมติอนุมัติให้ ทล.ก่อสร้างโครงการดังกล่าว ปัจจุบันได้ดำเนินการเวนคืนที่ดินเกือบครบ 100% เหลือเพียงรอออก พรฏ.ในบางพื้นที่ ดังนั้นภาพรวมขณะนี้จึงไม่ได้กระทบโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะประมูลจัดหาผู้รับเหมาภายในปี 2566 และลงนามภายในเดือน ต.ค. 2566 เพื่อเร่งรัดก่อสร้างให้ทันต่อการเปิดบริการในปี 2569

สำหรับผลการศึกษาโครงการ คาดว่าจะมีปริมาณจราจรประมาณ 22,000 คันต่อวัน และเพิ่มเป็น 41,300 คันต่อวันในปี 2597 หรือปีที่ 30 ของโครงการโดยโครงการมอเตอร์เวย์สาย 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อท่าอากาศยานอู่ตะเภามีมูลค่ารวม 4,508 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน และเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดรวม 4,400 ล้านบาท ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามแผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2565 และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 108 ล้านบาท พื้นที่รวม 88 ไร่ ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณระยะเวลาก่อสร้างระหว่างปี 2565-2567

ส่วนแนวเส้นทางโครงการมีจุดเริ่มต้นโครงการจากมอเตอร์เวย์สาย 7 บริเวณด่านจัดเก็บค่าผ่านทางอู่ตะเภา ผ่านพื้นที่ของกองพันปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน และมีจุดสิ้นสุดโครงการที่แนวเขตทางเข้า-ออกท่าอากาศยานอู่ตะเภาแห่งใหม่ บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) กิโลเมตร 189+500 รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร และได้มีการออกแบบเป็นทางแยกต่างระดับเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างมอเตอร์เวย์สาย 7 กับท่าอากาศยานอู่ตะเภา รวมถึงทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ในบางทิศทาง

ขณะที่รูปแบบทางแยกต่างระดับจะก่อสร้างเป็นทางแยกต่างระดับแบบ Semi-Directional with Loop Ramp โดย Semi-Directional Ramp จะรองรับการเดินทางจาก อำเภอสัตหีบเข้าสู่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ส่วน Loop Ramp จะรองรับการเดินทางในทิศทางออกจากท่าอากาศยานอู่ตะเภาไป จังหวัดระยอง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ จะเร่งรัดผลักดันโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะช่วยให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้า-ออกท่าอากาศยานอู่ตะเภาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้เป็นเมืองท่า เมืองศูนย์กลางการบิน และเมืองธุรกิจที่สำคัญของไทย ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี