นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่หนึ่ง กล่าวว่า นับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิ.ย. 2475 การพัฒนาการเมืองสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ยังไม่เกิดขึ้นเพราะติดกับดัก 4 ประการ 1. การคอร์รัปชั่นแบบ 3มประสานระหว่างนักการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐ-พ่อค้านักธุรกิจ 2. การเลือกตั้งทุจริตทั้งระดับชาติและท้องถิ่น 3. การบังคับใข้กฎหมายไม่มีมาตรฐาน 4. ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดวงจรอุบาทว์บั่นทอนการพัฒนาประชาธิปไตยตลอด 85 ปีที่ผ่านมาจนเป็นต้นเหตุการเกิดรัฐประหารถึง 13 ครั้ง มีรธน. 20 ฉบับ มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะ 10 ปีก่อนการยึดอำนาจ 22 พ.ค. 2557 ระบอบประชาธิปไตยเสื่อมถอยถึงที่สุดจากการใช้อำนาจฉ้อฉลโกงกินทุกระดับ แสวงอำนาจและผลประโยชน์เกินขอบเขต แบ่งแยกประชาชนเป็นฝักฝ่ายใช้กำลังประหัตประหารกัน ก่อวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่าจนบ้านเมืองเกือบล่มสลายเปรียบเสมือนทษวรรษที่สูญหายที่ทุกฝ่ายควรถือเป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยอันขมขื่นย้อนคืนกลับมาอีก
ซึ่งการปฏิรูปที่ต้นเหตุของปัญหาอย่างต่อเนื่องตามยุทธศาสตร์ชาติที่ได้มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยจึงเป็นก้าวใหม่ของประเทศที่จะสร้างระบอบประชาธิปไตยของประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชนได้อย่างแท้จริง.