ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์ ย้อนกลับ
มหาศึกแผ่นดินใหญ่ เมื่อโควิดไม่เป็นศูนย์
05 ม.ค. 2566

โลกของจีน โดย ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ

มหาศึกแผ่นดินใหญ่

เมื่อโควิดไม่เป็นศูนย์

 

          ตอนบทเข้มก็เข้มแบบสุดโต่ง  ตอนจะคลายก็คลายกันง่ายๆจนงงกันทั้งประเทศ

          สไตล์การปกครองของ “จีนแผ่นดินใหญ่” หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นศูนย์กลางของอำนาจ  และบนยอดสุดของอำนาจคือ “ท่านผู้นำ” ที่สามารถชี้นิ้วบงการว่าจะทำอะไร  หรือไม่ทำอะไร

          เมื่อเริ่มแรกที่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสมหันตภัยที่เมืองอู่ฮั่น  ติดแล้วมีอาการรุนแรงเสียชีวิตง่าย  แล้วลามจากอู่ฮั่นไปสู่เมืองอื่นๆ  ท่านผู้นำสี จิ้นผิง เชื่อว่าหากไม่ควบคุมอย่างเข้มงวดเด็ดขาดเชื้อจะลามไปทั่วประเทศ  ตอนนั้นยังไม่ทันพัฒนาวัคซีนขึ้นมาสู้  ประชากร 1,400 ล้านคนคงป่วยและตายเป็นใบไม้ร่วง  จึงตัดสินใจล็อคดาวน์ทีละเมืองและ “ปิดประเทศ”  พร้อมประกาศนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” เพื่อหวังเอาชนะเชื้อโควิด-19 ที่มาประกาศชื่อกันภายหลัง

          แม้การคุมเข้ม 3 ปีจะมีผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชน  จะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและกระทบกระเทือนการค้าขายของโลก  แต่ถือว่าจีนประสบความสำเร็จในการรักษาชีวิตของพลเมืองตนเอง  ได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับนานาประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาที่มีประชากร 332 ล้านคน แต่ตายเพราะโควิดมากกว่า 1 ล้านคน  หรือประเทศไทยที่มีประชากร 70 ล้านคน ตายไป 33,505 คน  เพราะช่วง 3 ปี ชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่ ตายเพราะโควิดเพียง 5,241 คนเท่านั้น

         แต่การถูกบังคับให้อยู่แต่ในบ้านนานๆ  การขาดอิสรภาพที่จะได้กินได้เที่ยว  หรือการต้องถูก “แยงจมูก”ตรวจหาเชื้อโควิดแทบทุกวันในพื้นที่เสี่ยง  มันเริ่มจะเป็นสิ่งที่รับไม่ได้แม้ในสังคมคอมมิวนิสต์ที่ประชาชนไม่เคยปฏิเสธคำสั่งจากรัฐบาล   ในที่สุดจึงระเบิดออกมาเป็นการประท้วงนโยบายโควิดเป็นศูนย์เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา 

          รัฐบาลปักกิ่งที่ไม่เคยยอมรับเสียงการประท้วงจากนักศึกษาและประชาชนที่ต่อต้านนโยบายรวมศูนย์  แต่ครั้งนี้กลับยอมผ่อนคลายมาตรการควบคุมกันแบบง่ายๆ  ทั้งๆที่รู้ว่าอะไรจะเกิดตามมาโดยเฉพาะในช่วง “ตรุษจีน” ซึ่งในยามปกติก่อนเกิดโควิด  คนจีนรู้ดีว่าจะเป็นอภิมหาโกลาหลแห่งการเดินทางของมนุษยชาติทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน ที่มิอาจหาบ้านอื่นเมืองใดมาเปรียบเทียบได้             

          เทศกาลตรุษจีน ที่ชาวจีนเรียก “ชุนเจี๋ย”  คือช่วงสิ้นฤดูหนาวเข้าสู่ ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มต้นฤดูเพาะปลูก   เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองที่ยาวนาน   เป็นวันหยุดตามประเพณีที่สำคัญที่สุดในประเทศจีน  เป็นวันรวมญาติ เซ่นไหว้บรรพบุรุษ  และยังเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

          สื่อจีนเคยรายงานสถิติการเดินทางภายในประเทศของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนก่อนเกิดโควิดว่า  ยอดผู้เดินทางรวมทุกเส้นทางสูงถึง 385 ล้านคน  

          นี่ยังไม่รวมผู้เดินทางออกท่องเที่ยวต่างประเทศซึ่งคาดว่าน่าจะมียอดรวมอีกนับสิบล้านคน       

           ยามปกติรัฐบาลก็ต้องเตรียมการรับมือกับ “ช่วงเวลาของการเดินทางแห่งชาติ”ที่แสนจะวุ่นวายอยู่แล้ว  แต่ช่วงเทศกาลชุนเจี๋ยปี 2023  ยังต้องเพิ่มมาตรการรับมือเชื้อโควิด-19 ที่จะกลับมาระบาดหนักอีกครั้งอย่างแน่นอน

          เพราะหลังจากที่จีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด   จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสก็พุ่งขึ้นทันตาเห็น   คนจีนแห่ไปพบแพทย์ตามโรงพยาบาลและคลินิกจนเกินกำลังจะรับมือ  จนเกิดภาพที่แชร์นัดไปทั่วโลก  เช่น ภาพผู้ป่วยนั่งล้อมวงรับยาทางสายน้ำเกลือ   ภาพผู้ป่วยนั่งรับยาทางสายน้ำเกลือในรถของตัวเอง ซึ่งยิ่งสร้างความตื่นตระหนกแก่คนทั้งประเทศ

         สถานการณ์ที่เคยเกิดในไทยและหลายๆประเทศช่วงโควิดระบาดระยะแรกกำลังเกิดในประเทศจีนคือ  ชาวบ้านแห่ตุนยาแก้ไอ ยาแก้ไข้  ชุดตรวจโควิด ATK  หน้ากากอนามัย  และอีกสารพัดที่เชื่อว่าจะช่วยเหลือตัวเองและครับครัวจากโควิด-19 ที่กำลังระบาดพร้อมกับข่าวลืออีกมากมาย

          นักวิชาการด้านการแพทย์ในสหรัฐอเมริกาที่ติดตามสถานการณ์ในจีนออกมาแสดงความคิดเห็นว่าการที่จีนยกเลิกมาตรการเข้มข้นแบบฉับพลันจะทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาลหรือที่เรียกว่า “สึนามิผู้ติดเชื้อโควิด”  สาเหตุสำคัญคือแรงงานเดินทางกลับบ้านหรือการออกท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน  โดย 1 ใน 3 ของประชากรจะติดเชื้อ และอาจจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านคนในปี 2023

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...