ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ซ้อเจนโต้รอง หน.พรรค ปชป.ยันคำพูดต่อรองเลื่อนลำดับ สส.ระบบบัญชีรายชื่อไม่เคยหลุดออกจากปาก แนะหันกลับไปมองตัวเองว่าทำไม สส. ในพรรคลาออกเยอะ
20 ม.ค. 2566

 วันนี้ 20 ม.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ หรือซ้อเจน ได้ลาออกจากการเป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่รัฐสภาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 ม.ค.) เพื่อไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะผู้สมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ หลังจากลาออกแล้วเสร็จ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาให้ข่าวถึงสาเหตุที่ นางศรีสมรฯลาออก เป็นเพราะว่ามีการต่อรองขอเลื่อนลำดับผู้สมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อขึ้นไปแต่ ไม่ได้ดั่งใจ ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวไปนั้น

จากกรณีดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ 20 ม.ค.66 นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ หรือซ้อเจน  ออกมาเปิดเผยว่า การที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมให้ข่าวเช่นนั้น ถือว่านายนิพนธ์ พูดเท็จ  เพราะส่วนตัวไม่เคยมีคำพูดไปต่อรองขอเลื่อนลำดับ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ กับพรรคประชาธิปัตย์เลยแม้แต่คำเดียว ซึ่งตั้งแต่หัวหน้าคนเก่าคือท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจาก สส. ตนก็อยู่ในพรรคอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวมาโดยตลอด
 
ที่สำคัญคือก่อนหน้านี้ตนยังแจ้งให้เลขาของพรรคทราบว่า ตนจะลงรับสมัคร  สส.กาญจนบุรี ในระบบเขตด้วยซ้ำไป ต่อมาขณะที่ตนลงพื้นที่เขตได้ระยะหนึ่ง จึงได้รู้ว่ากระแสของ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เป็นที่นิยมในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเลย อีกทั้งยังมีประชาชนบอกตนด้วยซ้ำว่าขอให้ย้ายพรรคเถอะ

 ซึ่งการที่ตนลาออกจากพรรค ก็ไม่เคยคิดทำร้ายพรรค และขอถอยออกมาแบบไม่ให้กระทบใคร เพราะรู้อยู่แล้วว่าอยู่ระบบบัญชีรายชื่อ ถึงลาออกมาก็คงไม่กระทบต่อพรรค เพราะมีบัญชีที่ต้องเลื่อนลำดับขึ้นไป  และยังมีคนสนใจเข้ามาอยู่ในระบบบัญชีรายชื่ออยู่อีกเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นตนจึงไม่เข้าใจว่าทำไม ท่านนิพนธ์ฯ  ให้ข่าวด้อยค่าคนที่ออกจากพรรคทุกคน จึงขอให้หันกลับมองตัวเองด้วยว่าทำไม สส.ของพรรค จึงลาออกกันจำนวนมาก ทั้งๆที่ผ่านมาไม่เคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน” นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ หรือซ้อเจน กล่าว

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 ธันวาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
02 ธ.ค. 2568
ต้องยอมรับว่า การปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยที่มั่นคง หัวใจสำคัญด้านหนึ่งต้อง มาจากฐานราก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การปกครอง ส่วนท้องถิ่นต้องเข้มแข็ง ซึ่งประเทศไทยเราเอง ก็พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับโดยเฉพาะเมื่อรัฐธรรมนูญ 2540 เปิดศักราชใหม่ให้กับการกระจายอำนาจลงสู่...