ทึ้งหนึ่งเดียวจังหวัดกระบี่อดีตตังเกเรือหาปลารักในอาชีพนำประสบการณ์ไอเดียการเดินทางในและต่างประเทศหันมาทำเรือจำลองฝากเพื่อนขายตามงานจนเป็นสินค้าที่ระลึกสุดยอด 5 ดาวชาวไทยและต่างชาติยอมรับในฝีมือ

 เรือเป็นยานพาหนะที่ใช้เดินทางทางน้ำ เรือโดยทั่วไปมีโครงสร้างที่สามารถลอยน้ำได้ กับส่วนที่เป็นการขับเคลื่อนของเรือ เช่นไม้พายใช้กับเรือพายหรือเรือแจว เครื่องยนต์ใช้กับเรือหางยาว เรือพาณิชย์ เรือใบ เรือเดินมหาสมุทร เป็นต้น ส่วนประกอบของเรือได้แก่สันท้องเรือด้านหน้า ผนังด้านในท้องเรือ ดาดฟ้าเรือ ท้องเรือ กราบเรือ ครีบท้องเรือ คานยึดครีบท้องเรือ หางเสือคือส่วนที่เป็นแผ่นบางๆหลังใบจักรมักเป็นรูปสี่เหลี่ยม อยู่บริเวณใต้ท้ายเรือมีหน้าที่ในการบังคับเลี้ยว และท้ายเรือ ปัจจุบันลักษณะเรือส่วนใหญ่มีความแตกต่างกันออกไปในการนำมาใช้งาน และชิ้นส่วนประกอบของตัวเรือเช่นใช้ไม้ ใช้เหล็ก ใช้เหล็กกล้า ใช้ไฟเบอร์ เป็นโครงสร้างและเป็นลำตัวเรือ เช่นเรือชาวประมงพื้นบ้าน เรือประมงพาณิชย์ เรือพาณิชย์ เรือสินค้า เรือเพื่อการท่องเที่ยว เรือรบ เรือดำน้ำ สามารถแล่นอยู่ในปากแม่น้ำ ทะเล และกลางมหาสมุทรได้นานเดินทางไปได้ไกล และมีท้องเรือสามารถเก็บเสบียงและใช้เป็นที่พักอาศัยได้ เรือในปัจจุบันเน้นความสวยงามเป็นหลักบวกกับความสะดวกสบาย และใช้เครื่องยนต์โดยใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง เพราะฉะนั้นเรือจึงไม่ได้มีไว้เพื่อการเดินทาง เพื่อการประกอบอาชีพ เพื่อการพักผ่อนและการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ยังเป็นยานพาหนะในการปกป้องนานน้ำและปกป้องประเทศ หรือใช้ในการทำสงครามอีกด้วย

โดยในวันนี้เราจะนำมารู้จักกับอดีตหนุ่มตังเก หรือหนุ่มเรือประมงพาณิชย์จังหวัดกระบี่ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในท้องทะเลอันดามัน ทะเลอ่าวไทย และทะเลจีนใต้ รวมถึงน่านน้ำสากล ตั้งแต่ปี 2504 ช่วงอายุ 14 ปี ในการออกเรือหาปลาและเป็นกัปตันเรือประมงพาณิชย์รวมถึงกัปตันสำเภาหรือเรือใบ 3 เสา ที่ขนส่งถ่านไม้โกงกางไปส่งที่เมืองปีนัง ประเทมาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศสิงคโปร์ เพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวอยู่นานถึง 26 ปี จนมาถึงชีวิตปั้นปลายต้องหยุดออกทะเลเมื่อปี 2530 ตอนอายุได้ 40 ปี เขาผู้นั้นถือว่าเป็นสุดยอดหนึ่งเดียวของจังหวัดกระบี่ ที่ผลิตเรือจำลองขนาดใหญ่ฝากเพื่อนๆนำไปขายในงานต่างๆในพื้นที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง ล้วนเป็นผลงานของเขาทั้งสิ้นจนได้รับการคัดสรรเป็นสินค้าของที่ระลึกระดับ 5 ดาว ผลิตภัณฑ์โอท๊อปที่มีชื่อเสี่ยงและเป็นที่ยอมรับในฝีมือและความสามารถ ที่ใช้ประสบการณ์ชีวิตมาสรรค์สร้างเรือจามจิตนาการที่เคยพบเห็นมา 

เขาผู้นั้นคือนายวัลลภ แย้มเนตร อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333 / 26 ถนนมหาราช ตำบลปากน้ำ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ถึงแม้ว่าเขาจะหยุดออกทะเลแล้วก็ตามแต่ด้วยจิตใจและความถูกพันที่อยู่กับทะเล นับว่าถือเป็นความโชคดีในปี 2535 ทางสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ ได้งบประมาณโครงการมิยาซาว่า จัดฝึกอบรมอาชีพให้กับผู้สนใจ จะนำความรู้ไปประกอบอาชีพเช่น การทำเรซิน การทำอาหาร การทำผ้าบาติก และการทำเรือจำลองหางยาวหรือเรือหัวโทง ซึ่งเขาเป็นคนสุดท้ายที่รับสมัครตามจำนวนที่ได้กำหนด

โดยนายวัลลภ แย้มเนตร อดีตหนุ่มตังเก เปิดเผยว่าหลังจากผ่านการฝึกอบรมอาชีพการทำเรือหางยาวหรือเรือหัวโทงมาจำลอง เริ่มแรกก็ทำเรือหัวโทงร่วมกับเพื่อนๆ มาเป็นเวลา 1 ปีเศษแต่อยู่ได้ไม่นานเพื่อนๆก็หยุดไปเนื่องจากขายไม่ค่อยจะได้ หลังจากนั้นตนจึงมีความคิดและไอเดียขึ้นมาโดยนำอาชีพในอดีตและประสบการณ์ ที่เดินทางอยู่ในท้องทะเลและได้เดินทางไปต่างประเทศ จึงหันมาทำเรือประมงพื้นบ้าน เรือประมงพาณิชย์ของแต่ละประเทศ โดยฝากให้เพื่อนนำไปขายให้ตามตลาดรวมถึงในงานต่างๆ ที่จัดขึ้นในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเป็นที่ต้องการของประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เมื่อเรือดังกล่าวเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากขึ้นจึงหันมาทำเรือใบ 3 เสาหรือเรือสำเภา เรือตรวจการชายฝั่ง เรือยนต์ เรือเร็วหรือเรือสปีดโบ๊ท เรือลากจูง  เรือตำรวจน้ำ เรือรบ รวมถึงเรืออื่นๆที่ลูกค้าต้องการให้ทำ และนำมาซ้อม ส่วนระยะเวลาในการทำเรือนั้นขึ้นอยู่กับความยากและง่าย บางลำ 6 – 7 ลำ บางลำครึ่งเดือน ตกเดือนละ 3 ลำ โดยใช้เวลานานถึง 27 ปี ทำเรือมาแล้วถึง 1,044 ลำ และนับเป็นความโชคดีที่เรือนั้นขายจนหมด 

นายวัลลถ เปิดเผยอีกว่า จนกระทั้งมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 นานถึง 3 ปี ต้องหยุดทำเรือจำลองขายเนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ไป แต่นายหัวที่ให้ความช่วยเหลือตนอยู่ในบ้านเช่าโดยไม่เก็บค่าเช่า และให้เป็นผู้ดูแลห้องแถวบ้านเช่า ทั้งได้ให้ใช้พื้นที่ว่างเปล่าปลูกผักสวนครัวที่หน้าบ้านพักอาศัยเพื่อหารายได้ในการเลี้ยงครอบครัว กระทั้งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ประเทศไทยเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ ตนจึงเริ่มทำเรือจำลองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเพราะด้วยใจรัก เมื่อทำเสร็จก็จะฝากเพื่อนไปขายในงานต่างๆเช่นเดิม เพราะขับรถไม่เป็นและไม่มีรถเป็นพาหนะในการเดินทาง รวมถึงไม่มีต้นทุนอีกด้วย ขณะนี้มีเรือจำลองที่ทำเสร็จแล้วจำนวน 7 ลำ ส่วนเครื่องมือในการทำเรือแต่ละชนิดนั้น จะไม่ใช้เครื่องฟ้าแม้แต่ตัวเดียวจะใช้เครื่องมือแบบพื้นถิ่นและหาซื้อได้ง่าย

นายวัลลภ เปิดเผยอีกว่าเรือจำลองที่ทำขึ้นในแต่ละลำจะไม่เหมือนกันหรือไม่ซ้ำกัน โดยไม่ใช้แบบแปลนแต่อย่างใด จะทำตามที่คิดได้และตามจินาการ และได้พัฒนาต่อยอดให้สวยเพื่อขาย ถ้าเขาไม่ซื้อก็เก็บไว้โชว์ให้ลูกหลานได้แล ขึ้นอยู่กับความคิดและไอเดียในขณะที่ทำประกอบชิ้นส่วน โดยใช้ไม้เนื้ออ่อนและไม้กระดานอัดเป็นหลัก ส่วนต้นทุนในการทำเรือจำลองอยู่ที่ 500 – 1,000 บาท เรือที่ทำเสร็จจากฝากเพื่อนไปขายตั้งแต่ลำละ 2,000 – 5,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เต็มที่แล้วคือผู้ผลิตและผู้ซื้อสามารถอยู่ได้ ส่วนการสั่งทำเรือนั้นต้องเชื่อฝีมือกันแต่ถ้าหากจะให้ตามใจของคนสั่งนั้นหากว่ามันไม่สมส่วนหรือผิดแปลกตนจะไม่รับ เพราะบางคนไม่เข้าใจในการทำเรือแต่ละชนิดว่ามันเป็นอย่างไร หรือใครสนใจอยากจำทำเรือจำลองสามารถมาปรึกษาได้ นอกจากนี้ยังรับซ้อมเรือจำลองทุกประเภทในราคาที่เป็นธรรม ซึ่งผู้ในใจสามารถสอบถามหรือสั่งทำได้ที่ นายวัลลภ แย้มเนตร อยู่บ้านเลขที่ 333 / 26 ถนนมหาราช เขตเทศบาลเมืองกระบี่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ หรือที่หมายเลขมือถือ 093 – 6162353

กระบี่