พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ว่า เป็นการเปิดกว้างให้ประชาชนสามารถร้องเรียนได้ ซึ่งข้อมูลที่ร้องเรียนเข้ามาจะถูกจัดเก็บเป็นความลับ และมีการตรวจสอบว่ามีมูลความจริงหรือไม่ พร้อมย้ำว่าการร้องเรียนขอให้เน้นข้อเท็จจริงเป็นหลัก ส่วนกรณีที่สภานิติบัญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติผ่านร่างกฎหมายพิจารณาคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ซึ่งอาจจะมีการรื้อคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาพิจารณาหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุ ยังไม่ทราบรายละเอียด และขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวลว่าจะส่งผลกระทบ ต่อการเดินหน้าทำงานของ คสช. ในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีการเสนอชื่อผู้จะมาตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมีชื่อของ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม และนายสมเกียรติ ศรีประเสริฐ รองเลขาฯ สมช.โดยยืนยันว่า ทุกตำแหน่งเป็นไปตามอาวุโส และเชื่อว่าจะไม่มีการน้อยใจ ซึ่งจะเป็นทหารหรือไม่นั้น ไม่น่ามีผลกระทบใดๆ เพราะ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาฯ สมช. คนปัจจุบันก็เป็นทหารเหมือนกัน พร้อมระบุว่า เรื่องดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับการทำบัญชีโยกย้ายอื่นๆ ในกองทัพ และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่หลายฝ่ายมองว่าบางตำแหน่งอาจไม่ลงตัว และจะปลอบใจคนที่พลาดหวังเข้ามาในตำแหน่งเลขาฯ สมช.
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงคนที่จะมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม คนใหม่ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรู้ใจ เพราะทุกคนก็รู้ใจตัวเองหมด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะเสร็จก่อนปลายเดือนกรกฎาคมนี้หรือไม่