กาญจนบุรี - ทะเลสาบน้ำจืดท้ายเขื่อนเขาแหลม ปกคลุมไปด้วยหมอกควันจากไฟป่า จนท.กฟผ.ระดมฉีดน้ำริมทาง ส่วน อุทยานเขาแหลมสั่งห้ามเข้าพื้นที่อันราย ด้านค่าฝุ่น PM 2.5 พบค่าสูงเกินมาตรฐาน

วันนี้ 8 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ไปทำธุระที่บ้านปิล็อกคี่ หมู่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งการเดินทางจะต้องไปทางเรือเท่านั้น ระหว่างเดินทางพบว่าทะเลสาบน้ำจืดท้ายเขื่อนวชิราลงกรณ หรือเขื่อนเขาแหลม นั้นพบว่ากลุ่มควันสีขาวที่เกิดขึ้นจากไฟป่าที่ลุกไหม้ตามผืนป่าอนุรักษ์ ตามภูเขาภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม รวมทั้งอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ที่อยู่โดยรอบ ทำให้บรรยากาศไม่อำนวยต่อการท่องเที่ยวทางน้ำหนักมาก

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนวชิราลงกรณ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ ได้นำรถน้ำมาดับไฟป่าที่เกิดขึ้นบริเวณ 2 ข้างทาง ของทางหลวงหมายเลข 3272 ทองผาภูมิ-ปิล๊อก ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ เนื่องจากทั้งสองข้างทางเกิดการเผาจนลุกลามป่าริมทางเป็นระยะๆ ซึ่งประชาชนต้องใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังเพราะผลจากกลุ่มควันทำให้ทัศนวิสัยบดบังสายตาทำให้มองไม่ค่อยเห็นเส้นทางการจราจร อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ส่วนนายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอทองผาภูมิ เปิดเผยว่า ในส่วนของฝ่ายปกครอง โดยอำเภอทองผาภูมิ ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้กับผู้นำท้องที่ เช่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้แจ้งข่าวให้ลูกบ้านของตนเองทราบว่า ห้ามเผาโดยเด็ดขาดเนื่องจากช่วงนี้ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิได้เกิดมลพิษจากควันไฟป่าเป็นอย่างมาก  ในส่วนการแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดกลุ่มหมอกควันขึ้นแล้วนั้น ทางฝ่ายปกครองกลางจะเป็นผู้ประสานหน่วยงานอื่นๆ เช่น หน่วยงานทหาร และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้เข้ามาร่วมมือกันดับไฟป่า

 ผู้สื่อข่าวรานงานว่า ขณะที่เพจ เฟซบุ๊ก สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรี ข้อมูลวันที่ 8 มี.ค.66 ระบุว่า วันที่ 8 มีนาคม 2566 เวลา 08:00 น.ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 81 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มีค่าสูงเกินมาตรฐาน คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

สำหรับเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ยังได้ปฏิบัติการทิ้งน้ำดับไฟป่าอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ปฏิบัติการ ทิศเหนือ ของอุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ และบ้านโบอ่อง ตำบลปิล๊อค อำเภอทองผาภูมิ 

นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อรุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ในจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี จากการตรวจสอบจุดเกิดไฟป่า (Hotspot) ซึ่งมีปริมาณที่มากจนเป็นที่น่ากังวล จึงได้สั่งการให้มีการปิดประกาศการเข้าใช้พื้นที่ในเขตอุทยานฯ ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าอย่างเร่งด่วน เพื่อควบคุมไม่ให้ไฟลุกลามเข้าเขตธรรมชาติ หากมีผู้ทำให้เกิดไฟป่าจะมีความผิดตามกฎหมายระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โอกาสนี้ทางอุทยานแห่งชาติได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่าน Page Facebook และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์รณรงค์การจุดไฟเผาป่า การพบเห็นไฟป่าให้แจ้งกับผู้นำชุมชน เพื่อดำเนินการดับไฟไม่ให้เกิดลุกลามออกไป./

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน