บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ (MTW) หลังจากเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุด บิ๊กบอสอย่าง นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้วางเป้าเร่งสร้างโรงงานผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้แล้วเสร็จภายใน Q2/2566 เพื่อเพิ่มกำลังผลิตให้สอดคล้องกับเทรนด์เรื่องยานยนต์พลังงานสะอาดกำลังเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค

                นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW เผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 เราได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการสร้างโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (DECO) โดยเนื้อที่ของโรงผลิตแห่งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 23.5 ไร่ ใช้งบลงทุนกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งความคืบหน้าของโรงงานได้ดำเนินการแล้วเสร็จประมาฌ65% โดยเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยจากเดิมผลิตได้ 12,000 ต่อ/ปี ตั้งเป้ายอดขายถึงปี2568 จะเติบโตจากเดิน 4-5เท่า และโรงงานใหม่นี้ บริษัทได้ดำเนินการยื่นขอBOI อีกด้วย อย่างไรก็ตามการสร้างโรงงานการผลิตนี้ เราให้ความสำคัญกับการกำกับกิจการที่ดี ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการจัดการของเสียที่สอดรับกับมาตรฐานสากล  และสร้างประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนโดยรอบ

                นายกฤตเมธ กล่าวต่อไปว่า เทรนด์ของยานยนต์ไฟฟ้ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง (DECO) เรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้นำเอาพลังงานไฟฟ้ามาปรับใช้เป็นเชื้อเพลิงในขับเคลื่อนยานยนต์ ซึ่งนอกจากประหยัดค่าใช้จ่ายยังถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์พลังงานสะอาดแบรนด์ต้นๆที่เข้ามาทำตลาดในไทย โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ DECO ได้ลงนามข้อตกลงมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับทางกรมสรรพสามิตเป็นที่เรียบร้อย และถือเป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารายแรกที่เข้าร่วมมาตรการจากทางภาครัฐที่หนุนให้คนไทยหันมาใช้ EV โดยจะได้รับส่วนลดซื้อรถ EV 18,000 บาท/คัน ถึงปี 2568 ซึ่งนี่ถือเป็นทิศทางที่ดีที่สะท้อนถึงความตั้งใจของเราที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ และร่วมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Ecosystem ในประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยภาครัฐในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การใช้รถ EV ให้ได้ 1.2 ล้านคัน ภายในปี 2579

สำหรับแผนในปี 2566 ทาง MTW ยังคงเร่งสร้างโรงงานผลิตดังกล่าวให้แล้วเสร็จและเริ่มเดินเครื่องผลิตในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2566 นี้ พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ารุกตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าผ่านการขยายสาขาและจุดให้บริการหลังการขายให้ครอบคลุมทั่วไทย พร้อมกันนี้ยังคงศึกษาและเดินหน้าพัฒนาสินค้าให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสอดรับกับวิสัยทัศน์ของบริษัท ที่มองเห็นว่าพลังงานทางเลือกจะช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ และ DECO พร้อมเป็นส่วนเติมเต็มให้กับชุมชนและสังคมไทยก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในอนาคตไปด้วยกัน