ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2560 ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ แต่งตั้ง นายฉัตรชัยพรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงมหาดไทย แทน นายกฤษฎา บุญราช ที่จะเกษียณอายุราชการ วันที่ 30 กันยายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีมติตั้ง นายชูเกียรติ มาลินีรัตน์ เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายพสุ โลหารชุน เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์
โดย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงเหตุผลที่ต้องเสนอรายชื่อแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยเร็ว เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย ต้องดำเนินการแต่งตั้ง รองปลัดกระทรวง อธิบดี โดยเฉพาะ ผู้ว่าราชการจังหวัด ตามลำดับ ให้ทันในการเตรียมทำหน้าที่ในภารกิจสำคัญในช่วงเดือนตุลาคม นี้
ก่อนหน้าที่ ครม.จะมีมติเห็นชอบ ก็มีข่าวมาโดยตลอดว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ซึ่งยังมีอายุราชการเหลืออีก 4 ปี จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีผลงานโดดเด่นในฐานะมือประสานสิบทิศ จนได้รับการยอมรับจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ครั้นมาถึงยุครัฐบาล คสช. นายฉัตรชัยก็สามารถทำงานสนองนโยบายของเจ้ากระทรวงมหาดไทยได้อย่างดีเยี่ยม
อย่างไรก็ตามนายฉัตรชัยเคยถูกสังคมตั้งข้อสงสัยในเรื่องการประกวดราคาจัดซื้อรถยนต์บรรทุกดับเพลิงและเรือยนต์กู้ภัย วงเงินกว่า 7 พันล้านบาท (ระหว่างปี 2555-2557) เป็นเหตุให้สำนักข่าวอิศราต้องอ้างอิง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อขอเอกสารการประกวดราคาของทุกโครงการจาก ปภ. แต่กลับถูกเรียกค่าใช้จ่ายในการขอเอกสารถึง 50,000 บาท
อีกทั้งยังถูกตั้งข้อสังเกตในโครงการขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ ขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) เมื่อปี 2558 - 2559 เนื่องจาก ปภ. ได้ว่าจ้าง อผศ. ขุดลอกแหล่งน้ำ วงเงินประมาณ 4.5 พันล้านบาท
แต่หลายโครงการเกิดปัญหาก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ เหตุจากผู้รับเหมาช่วง กระทั้ง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ต้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตหรือไม่
สำหรับประวัติของ นายฉัตรชัย บุญเลิศ มีชื่อเล่นว่า ‘ฉิ่ง’ เป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2504 คู่สมรส ชื่อ ดร.ปฤถา พรหมเลิศ ด้านการศึกษา จบรัฐศาสตรบัณฑิต และ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 38 พ.ศ. 2538 c]tหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่น ที่ 41 พ.ศ. 2543 รวมทั้งหลักสูตรนักบริหารระดับสูง (นบส.) ก.พ. รุ่นที่ 42 พ.ศ. 2546, หลักสูตรการบริหารเศรษฐกิจสาธารณะ สำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 3 สถาบันพระปกเกล้า พ.ศ. 2546, หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นปี พ.ศ. 2549,หลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 1 พ.ศ.2549, ตามด้วยหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 16 จากสถาบันพระปกเกล้า พ.ศ. 2556, หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการบริหารพัฒนาเมือง (มหานคร รุ่นที่ 2)กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2556,และหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงอาเซียน สำนักงาน ก.พ. รุ่นที่ 2 2556, หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) รุ่นที่ 17 พ.ศ. 2557 และ หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) รุ่นที่ 19 พ.ศ. 2557 ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ : มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2557
ทางด้านประวัติการรับราชการ
เริ่มรับราชการวันที่ 13 สิงหาคม 2527 จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครอง 3) อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ย้ายไปเป็นเจ้าพนักงานปกครอง 3 กองราชการส่วนจังหวัดและตำบล กรมการปกครอง และ นักการข่าว 4 กองงานความมั่นคง (ปฏิบัติงานข่าวกรอง 3 จังหวัดภาคใต้) กรมการปกครอง ตามด้วยผู้ตรวจการส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครสวรรค์ ต่อมาโยกย้ายไปเป็นปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอแม่เปินจังหวัดนครสวรรค์ ตามมาด้วยตำแหน่ง เร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดสิงห์บุรี (เจ้าหน้าที่บริหารงานพัฒนาชนบท 8),เร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดนครสวรรค์ (เจ้าหน้าที่บริหารงานพัฒนาชนบท 8) ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ (รก.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, ผู้อำนวยการสำนักช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและ ผู้อำนวยการส่งเสริมการป้องกันสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ สป.มท.(รก.) จากนั้นก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี (1 ตุลาคม 2552 – 30 กันยายน 2555) และได้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - ปัจจุบัน)
ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ได้แก่
รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมป์ (18 ต.ค. 2555 ถึง ปัจจุบัน), เป็นกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยากยาก สภากาชาดไทย,เป็นคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (9 ธ.ค. 2557 ถึง ปัจจุบัน) , เป็นคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (8 พ.ค. 2558 ถึง ปัจจุบัน) รวมทั้งเป็นนายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปี พ.ศ. 2558-2559