ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ดีเอสไอ คุม "อดีตพระเณรคำ" ให้อัยการส่งฟ้องศาลแล้ว ก่อนนำตัวฝากขัง ขณะเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอให้การต่อสู้คดีในชั้นศาล ด้าน อัยการฟ้อง 2 คดี 5 ข้อหา ให้คืนเงินผู้เสียหาย 28.6 ล้านบาท
20 ก.ค. 2560

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบคำให้การ ของนายวิรพล สุขผล อดีตพระภิกษุ ชื่อ พระวิรพล ฉัตติโก หรือ เณรคำ อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ในข้อหาพรากผู้เยาว์ ,กระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี , กระทำอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี, ฉ้อโกงประชาชน,และฟอกเงิน เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้นำตัวไปส่งให้อัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว โดยการสอบปากคำมีทนายความส่วนตัวของนายวิรพล หรือ เณรคำ ประมาณ 3 ทีม มาร่วมรับฟังการสอบสวน ซึ่ง นายวิรพล หรือ เณรคำ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะขอไปให้การต่อสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหา
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องปาราชิก เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้อ่านใบปาราชิกให้รับทราบ นายวิรพล หรือ เณรคำ อ้างว่าไปพำนักอยู่ในต่างประเทศไม่รู้ว่าต้องปาราชิก ซึ่งนายวิรพล หรือ เณรคำได้ยินยอมถอดจีวร แต่ไม่เปล่งวาจาสึก

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวด้วยว่า ในช่วงพูดคุยถึงในขั้นตอนการรับตัวได้มีการสอบถามนายวิรพล ถึงเหตุผลที่ไม่อุทธรณ์คำสั่งส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ก็ได้รับคำตอบว่า ทนายความได้ยื่นอุทธรณ์ แต่นายวิรพลได้สั่งห้ามไม่ให้อุทธรณ์ เพราะอยากกลับเมืองไทย พร้อมจะสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมของไทย 

อัยการ ฟ้อง 2 คดี 5 ข้อหา ให้คืนเงินผู้เสียหาย 28.6 ล้านบาท 

ร้อยโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลัง พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ คุมตัว นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ พร้อมสำนวน มาส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการพิเศษคดีพิเศษ 4 เพื่อมีความเห็นทางคดี โดยระบุว่า หลังจากรับตัวนายวิรพลมาแล้ว อัยการได้ตรวจพยานหลักฐานการแสดงตัวว่าเป็นบุคคลตามที่ดีเอสไอส่งตัวมาเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ และตรวจสอบคำให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งทั้ง 2 คดี คือ คดีพิเศษ ที่ 186/2556 ข้อหา พรากผู้เยาว์ , กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ฯ และคดีพิเศษที่ 151/2556 ข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และฐานฟอกเงิน โดยนายวิรพลให้การปฏิเสธและจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งอัยการได้ตรวจสำนวนคำร้องของพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ แล้ว ได้มีความเห็นสั่งฟ้องนายวิรพล ทั้ง 2 สำนวน รวม 5 ข้อหา 

ส่วนข้อหา อนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และ พาเด็กไปเพื่อการอนาจาร นั้น คดีนี้เกิดขึ้นเมื้อช่วงปี 2543-2544 ทำให้คดีนี้ ขาดอายุความไปแล้ว อัยการจึงยุติการดำเนินคดี 

สำหรับข้อหาฉ้อโกงประชาชน นั้น ตามกฎหมาย กำหนดให้อัยหารร้องขอเงินคืนให้กับผู้เสียหาย เมื่ออัยการฟ้องนายวิรพล ในข้อหานี้ อัยการจึงระบุในคำฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ นานวิรพล คืนเงินกว่า 28.6 ล้านบาท แก่ผู้เสียหายรวม 29 ราย ด้วย

อย่างไรก็ตาม อัยการ จะนำตัวนายวิรพล ไปยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในวันนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า จำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...