ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กำลังจะมีการเปิดรับสมัคร สส.ทั่วประเทศ และจังหวัดปทุมธานี ก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุด แต่ยังไม่ทันไรก็มีการให้ข้อมูลและเริ่มร้องเรียนถึงพฤติกรรมของว่าที่ผู้สมัคร  สส.และการร้องขอความเป็นธรรมเรื่องการคัดสรรตัวผู้สมัครที่สังกัดพรรคเดียวกันแต่มีคนสมัครในเขตเดียวกันถึง 2 คน โดยเคสแรกเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งส่งจดหมายลงทะเบียนร้องเรียนมากับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่า 

"ดิฉัน มีภูมิสำเนาอยู่ จ.ปทุมธานี เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ายี่ห้อดัง และเป็นอดีตเลขาชมรมคนรักในหลวงจังหวัดปทุมธานี เมื่อหลายปีที่ผ่านมาได้มี ว่าที่ผู้สมัคร สส.ปทุมธานี (ปัจจุบัน) ของพรรคหนึ่ง ได้มาสมัครเป็นสมาชิก และให้ดิฉันสำรองเงินซื้อผลิตภัณฑ์ยี่ห้อแบรนด์ดัง ในราคาทุน (ราคาสมาชิก) ให้กับว่าที่ผู้สมัคร สส.คนดังกล่าว ไปจำหน่าย เพื่อทำกำไรเอง ตามหลักการตลาด โดยคิดเป็นเงินลงทุนให้ไปประมาณ 55,000 บาท ซึ่งสินค้าที่เขานำไปก็ได้จำหน่ายหมดไปนานแล้ว แต่ก็ไม่นำเงินลงทุนมาคืนให้ดิฉัน (ที่ดิฉันให้เครดิตสินค้าไปเพราะว่า มีนายตำรวจท่านหนึ่งแจ้งว่า ว่าที่ผู้สมัคร สส.คนนี้ เป็นคนดี น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้) แต่บัดนี้ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคดังพรรคหนึ่ง ได้ขึ้นป้ายลงเขตซึ่งอยู่ในเขตละแวกบ้านของดิฉันด้วย ดิฉันคิดว่าถ้าว่าที่ผู้สมัคร สส. ทำตัวแบบนี้ ก็ไม่ควรจะมาสมัครเป็น ส.ส. ในเขตนี้ และดิฉันจะทำหนังสือแจ้งไปยังหัวหน้าพรรค และผู้ที่เกี่ยวข้องภายในพรรคด้วย จึงเรียนรบกวนมายังท่านว่าดิฉันควรจะดำเนินการอย่างไรอีกต่อไป ขอแสดงความนับถือ" ลงชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์

ส่วนอีกเรื่อง เมื่อว่าที่ผู้สมัคร สส.คนหนึ่งได้ส่งเรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหารพรรคหนึ่ง ที่มีการจัดประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  จังหวัดปทุมธานี และมีการไพรมารี่ โหวต โดยตัวแทนชาวบ้านที่เป็นสมาชิกลงมติโหวต เนื่องจากว่า 2 คน ปรากฎว่าผลโหวตมีการให้ว่าที่ผู้สมัครซึ่งเป็นหญิงได้ แต่กลับมีว่าที่ผู้สมัครคนหนึ่งซึ่งทำตัวเป็นคนเด่นคนดังประท้วงจนทำให้ว่าที่ผู้สมัครที่เป็นผู้หญิงตกไป จึงทำให้มาร้องขอความเป็นธรรมกับผู้บริหารพรรคดังกล่าวให้พิจารณาทบทวนอึกครั้ง

สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / หน.ข่าวภูมิภาค