ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ โวยท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ปล่อยปละละเลย ปล่อยเค้าเตอร์ขายทัวร์ ขายแท็กซี่ตัดราคา รวมทั้งรถป้ายดำและรถที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาวิ่งรับส่งแขก จนทำให้เกิดปัญหาการแย่งชิงผู้โดยสาร และเกิดปัญญาทะเลาะเหมือนดังในคลิปบ่อยครั้ง ไร้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการจัดระเบียบดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้อง 

วันที่ 1 เม.ย.66 จากกรณีคลิปเหตุการณ์ การใช้ถ้อยคำด่าทอ ท้าตีท้าต่อย เกิดจากการแย่งชิงผู้โดยสารของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ภายในสนามบินนานาชาติกระบี่ สร้างความเอื้อมระอาให้แก่ผู้ที่พบเห็นและนักท่องเที่ยว เนื่องจากเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นทุกวัน และบางครั้งถึงขั้นทุบตีกันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

จากการสอบถามเจ้าของคลิป ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ภายในสนามบินกระบี่ ทั้งที่เป็นพื้นที่ราชการ แต่มีการที่ปล่อยให้กลุ่มคนเข้ามาทำความผิด ทั้งการยื้อแย่งผู้โดยสาร เพื่อขายบริการรถโดยสารมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีรถสาธารณะที่ มีการจดทะเบียนให้บริการ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีการมาชู้ป้าย  TAXI  Join mini van  เมือง 100 บาท  อ่าวนาง 150 บาท เกาะลันตา 500 บาท เดินจับทั้งในอาคารและนอกอาคาร โดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว  ขายเป็นรายหัวเมือง  อ่าวนาง  แต่ รถที่เข้ามาวิ่งมาลงวินตั้งเที่ยว มีทั้ง ป้ายดำ  ป้ายแดง ป้ายเขียว ป้าย 30 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางท่าอากาศยานเป็นคนประกาศเอง ท่าอากาศยาน เป็นพื้นที่ พิเศษ  เป็นเขตหวงห้าม เป็นสถานที่ราชการห้ามบุกรุก ใครบุกรุกแจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้ดำเนินคดีไปกี่รายเพราะนับวันยิ่งมีปริมาณคนที่ทำผิดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆรวมทั้งการปล่อยปละละเลยมาจนถึงปัจจุบันนี้ ไร้การแก้ไขปัญหา

ด้านนายเกียรติภูมิ วงษ์แก้วศรีทอง อายุ 58 ปี ผู้บริหาร หจก.แวลตี้อันแอ็นดิ้ง ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่  กล่าวว่า   ตนในฐานะผู้ได้รับสัมปทานรถโดยสารท่าอากาศ.ยานรายเดิมมาตั้งแต่ปี 2550  มีสิทธิ์ที่จะขายบริการไห้กับผู้โดยสารในสนามบิน แต่เนื่องจากมีการย้ายอาคารรับรองผู้โดยสารมาที่อาคารหลังใหม่  ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จ  ทางท่าอากาศยานยังไม่ได้จัดสถานที่ให้พวกเรา และมีการกีดกันต่างๆนานา   แถมยังปล่อยให้ผู้ที่ได้รับสัมปทานเค้าเตอร์ขายทัวร์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับรถโดยสาร มาตั้งคิวแท็กซี่แข่งกับพวกตน จนเกิดการแย่งผู้โดยสารกัน ตามที่ปรากฏในคลิป  ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง  เพราะความจริงแล้วเค้าเตอร์ทัวร์ที่มีอยู่4-5 เค้าเตอร์ขายได้เฉพาะทัวร์อย่างเดียว ซึ่งจะต้องมีมัคคุเทศก์อยู่ด้วย  แต่พอได้รับสัมปทานมาแล้ว ไม่ได้ขายทัวร์   ขายบริการแท็กซี่อย่างเดียว แข่งกับผู้ที่ได้รับสัมปทานแท็กซี่ที่ทำมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  เป็นสาเหตุให้เกิดการแย่งชิงลูกค้ากันและเกิดปัญหา ที่ทางท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ไม่มีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือถึงอธิบดีกรมท่าอากาศยานแล้ว ก็ไม่คืบหน้า ตอนนี้ได้ทำหนังสือถึงบปปช.เพื่อให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สนาบินกระบี่  แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ   จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องกับท่าอากาศยาน จะต้องรักษากฎกติกาและกฎหมายอย่างเข้มงวด  ผู้ประกอบการรายใดได้สิทธิ์สัมปทานกิจการอะไร ก็ต้องทำในกิจการนั้นอย่างเดียว ไม่ใช้ปล่อยให้ทำได้ทุกอย่าง  พวกขายทัวร์ก็ต้องขายทัวร์ไม่ใช่มาขายบริการแท็กซี่  อย่างเช่นรถป้าย10 เป็นรถที่วิ่งประจำทางถนนสายหลัก ไม่ใช่เอามาวิ่งรับส่งผู้โดยสารในสนามบิน  แถมค่าโดยสารก็ยังแพงว่ารถโดยสารทั่วไป เป็นแบบนี้มานานโดยไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด

ด้านนายเกียรติภูมิ  กล่าวอีกว่า ตนเองขอตั้งคำถามถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่   รถป้าย10 คือรถรับจ้างประจำทาง เอาเข้ามาในสนามบินได้อย่างไร ผู้ประกอบการในสนามบิน ที่ได้รับสัมปทานเค้าเตอร์ทัวร์ เพื่อการท่องเที่ยว  ห้ามขายรถทุกประเภท  แต่ทั้ง 5 รายขายรถรับส่งหมด ซึ่งผิดเงื่อนไขการสัมปทาน สนามบินต้องบอกเลิกสัญญา หจก.เวลตี้ อันเอ็นดิ่ง   เข้ามาดำเนินการอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขสัมปทานไม่ใช่รถเถื่อน แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่แต่อย่างใด 

กระบี่