ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
ดงครั่งน้อย ต้นแบบแห่งความยั่งยืน
04 เม.ย. 2566

ดงครั่งน้อย ต้นแบบแห่งความยั่งยืน ยก "ทุนชุมชน" เป็นพื้นฐานการพัฒนา พ่อเมืองร้อยเอ็ดเผย "ผู้นำต้องทำก่อน กล้าเปลี่ยนแปลง Change for Good ให้กับพี่น้องประชาชนทุกมิติ" ขยายผลสิ่งที่ดีสู่ทุกตำบล หมู่บ้าน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติปลูกผักสวนครัว รอบ 2 อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายปลูกผักสวนครัว ปลูกพืชสมุนไพร หมู่บ้านทุกครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ 1. ผู้นำทำก่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมส่วนราชการ ภาครัฐภาคเอกชน ดำเนินกิจกรรม Kick Off ปลูกผักสวนครัว เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 2. ส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนปลูกผักสวนครัว ปลูกพืชสมุนไพรและจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน 3. รณรงค์ส่งเสริมให้ทุกหมู่บ้านมีถนนกินได้ อย่างน้อยหมู่บ้านละ 1 แห่ง และ 4. ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์แบ่งปันเมล็ดพันธุ์และต้นกล้า อย่างน้อยตำบลละ 1 ศูนย์

“ล่าสุด ตนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้นำการเปลี่ยนแปลงตำบลดงครั่งน้อย สุดยอดผู้นำการเปลี่ยนแปลงดีเลิศ ระดับประเทศ พร้อมติดตามการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติปลูกผักสวนครัว รอบ 2 อย่างต่อเนื่อง รณรงค์ปลูกพืชสมุนไพร ต้านภัย COVID-19 ประจำปี 2566 ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านโพนฮาด หมู่ที่ 12 ตำบลดงครั่งน้อย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายพิชัยยา ตุระซอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด นางสาววิภาดา รัตนโรจนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด นางราณี วงศ์ลุน ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน และผู้นำตำบลดงครั่งน้อย และชาวบ้านโพนฮาด ร่วมลงพื้นที่ พร้อมรับฟัง นำเสนอผลความสำเร็จผู้นำการเปลี่ยนแปลงระดับตำบลดีเลิศ ระดับประเทศ ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร การสร้างสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และการขับเคลื่อนการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และขึ้นรถรางพาเยี่ยมชมแปลงผักบริเวณรอบหนองฮาด แปลงโคก หนอง นา บ้านโพนฮาด หมู่ที่ 12 และกิจกรรมแปลงปลูกผักถนนกินได้ บริเวณหน้าวัดบ้านโพนฮาด” ผวจ.ร้อยเอ็ด กล่าว

นางจันทร์หอม บุญลาด ตัวแทนของผู้นำการเปลี่ยนแปลงตำบลดงครั่งน้อย กล่าวว่า ตำบลดงครั่งน้อย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด 1 ใน 193 ตำบล ของจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นชุมชนแห่งการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ชั้นดีของโลก ที่มีทุนในชุมชนหลากหลาย ทั้งทุนมนุษย์ ทุนเงิน ทุนธรรมชาติ ทุนสังคม ทุนกายภาพ โดยนำทุนเหล่านี้มาเป็นปัจจัยในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผู้นำชุมชนร่วมกับประชาชน ภาคีเครือข่าย ได้ดำเนินการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน โดยยึดหลักการพัฒนา บวร (บ้าน วัด ราชการ) โดยผู้นำชุมชนทำก่อนเป็นต้นแบบ แล้วขยายผลไปทุกครัวเรือน จนเกิดผลสำเร็จ

“ชุมชนของเราได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยมีกิจกรรมขยายพื้นที่ปลูกผักปลอดสารพิษ และไม้ผลในบริเวณบ้านมากกว่า 10 ชนิด ที่ 1,755 ครัวเรือน หรือ 100% ของครัวเรือนในตำบลดงครั่งน้อย ทำให้ลดรายจ่ายต่อวัน และนำผลดีดังกล่าวขยายผลจากรอบรั้วบ้านตนเอง สู่การปลูกในพื้นที่สาธารณะรอบหนองน้ำ บริเวณพื้นที่ทำการเกษตรแบบผสมผสานตามหัวไร่ปลายนา ในรูปแบบแปลงรวม ทำให้เกิดการเพิ่มรายได้ครัวเรือนละ 500-1,000 บาทต่อเดือน จากผลผลิตสด และแปรรูป นอกจากการสร้างความมั่นคงทางอาหารที่ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้แล้ว ยังก่อเกิดประโยชน์สาธารณะ ทั้ง 13 หมู่บ้านร่วมสร้างแหล่งอาหารด้วยการปลูกผักริมถนน 1 หมู่บ้าน 1 ถนนกินได้, ปลูกผักในวัด 8 แห่ง, โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 10 แห่ง, องค์การบริหารส่วนตำบลดงครั่งน้อย และสานต่อความมั่งคงในทุกหมู่บ้านด้วยการจัดตั้งธนาคารเมล็ดต้นกล้าพืชผัก” นางจันทร์หอมฯ กล่าว

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวต่อว่า กิจกรรมในวันนี้ทำให้ได้มาติดตามให้กำลังใจผู้นำการเปลี่ยนแปลงตำบลดงครั่งน้อย สุดยอดผู้นำการเปลี่ยนแปลงระดับดีเลิศ พร้อมทั้งศึกษาดูงาน บ้านโพนฮาด หมู่ที่ 12 ตำบลดงครั่งน้อย อำเภอเกษตรวิสัย ซึ่งเป็นหมู่ต้นแบบ มีการปลูกผักสวนครัวทุกครัวเรือน ปลูกผักบริเวณรอบหนองฮาด ซึ่งเป็นที่สาธารณะ จำนวน 19 ไร่ ปลูกในแปลงโคกหนองนา ปลูกตามหัวไร่ปลายนา นอกจากนั้น ยังมีศูนย์แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ ให้สำหรับครัวเรือนที่ขาดเมล็ดพันธุ์ได้แบ่งปัน ไปปลูก ทำให้สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้แก่คนในชุมชน และเป็นแบบอย่างให้แก่ชุมชนอื่น ได้มาเรียนรู้และนำไปขยายผล ขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติปลูกผักสวนครัว รอบ 2 อย่างต่อเนื่อง โดยปลูกผักสวนครัวและสมุนไพร มากกว่า 10 ชนิด จะทำให้ลดรายจ่าย และเพิ่มรายให้แก่ทุกครัวเรือน เพื่อการสร้างความมั่นคงทางอาหาร การสร้างสุขภาพที่ดี “ทุกครัวเรือนคือคลังอาหาร ทุกหมู่บ้านคือศูนย์แบ่งปัน”

“สิ่งเหล่านี้เป็นความสำเร็จส่วนหนึ่ง จากพลังของผู้นำชุมชนในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ร่วมกับชาวตำบลดงครั่งน้อย ได้บูรณาการกับทุกภาคีเครือข่าย ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมพัฒนา ร่วมติดตามอย่างครบวงจรในการขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ทำให้วันนี้ตำบลดงครั่งน้อย มีความมั่นคงทุกด้านนำไปสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแท้จริง” ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติม

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเน้นย้ำในช่วงท้าย เพิ่มเติมว่า ในปี 2566 จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการขับเคลื่อนตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยส่งเสริมให้ผู้นำ กลุ่ม องค์กร ภาคีเครือข่าย และประชาชนได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ให้มีความเข้มแข็ง มีความมั่นคง ความมั่งคั่ง และความยั่งยืน โดยนำต้นแบบความสำเร็จของผู้นำการเปลี่ยนแปลงตำบลดงครั่งน้อย สุดยอดผู้นำการเปลี่ยนแปลงดีเลิศ ระดับประเทศ และแนวทางการดำเนินงานของบ้านโพนฮาดซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ไปขยายผลให้ครอบคลุมทุกตำบล ทุกหมู่บ้านตามโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...