ผอ.สนง.กกต.กาญจนบุรี จัดอบรมสมานฉันท์เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยหลักแล้วข้าราชการย่อมรู้ดีว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และความจะอยู่ในขอบเขตอย่างไร และการที่มาชี้แจงวันนี้ไม่ใช่เราจะไม่ได้เจอกันอีก 

วันนี้ 11 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ห้องสังขละบุรี โรงแรมริเวอร์แคว กาญจนบุรี ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี  สำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดกาญจนบุรี จัดโครงการปฏิรูปการเมืองสุจริตบนฐานของการเลือกตั้งกิจกรรมหลัก เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปกิจกรรมรองที่ 2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้ง โดยนายศรัณยู อาทิตยศรัณยากร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้บรรยาย เรื่อง "ระเบียบ ข้อกฎหมายในการเลือกตั้ง ข้อห้าม ข้อปฏิบัติตามประกาศ กกต. หลังจากที่เปิดรับสมัครแล้วรายละเอียดจะถูกส่งไปยัง กกต.กลางทันที แล้วจะทราบว่าท่านใดที่สมัครสามารถผ่านเป็นผู้สมัครได้หรือไม่นั้นรอวันที่ 14 เม.ย. 66 จะทราบว่าท่านผู้สมัครผ่านหรือไม่ผ่าน หากไม่ผ่านสามารถแจ้งร้องขอสิทธิ์ได้ภายใน 3 วัน เพื่อขอทราบที่ท่านถูกตัดสิทธิ์เรื่องใด ซึ่ง สำนักงาน กกต. ในพื้นที่จะไม่ทราบเรื่องนี้เลย

โดย นายฤทธิรงค์ แก่นจันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมืองจะบรรยาย เรื่อง "กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร"โดย นายนิรันดร์ บุญราช หัวหน้ากลุ่มงานจัดการเลือกตั้งและการมีส่วนร่วม โดยมี นายสมยศ สำเนียงงาม พ.ต.อ.บุญรัตน์ เพลินคู่ธรรม นายอัฐถวินิต พิพัฒน์พรชาติ นางปริศนา พินิจการ นายพิมาย โสมะภีร์ ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมสังเกตุการณ์ 

สำหรับการจัดโครงการนี้ได้มี ตัวแทนและผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี อาทิ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ นายอนุกูล แพรไพศาล ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ นายเสรี นาเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2 พรรคไทยสร้างไทย และผู้แทนพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมรับฟัง

โอกาสนี้ นายศรัณยู อาทิตยศรัณยากร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวว่า การเชิญผู้สมัครมาร่วมประชุมในครั้งนี้เพื่อเป็นการชี้แจง ข้อกฎหมาย ของผู้สมัครว่าอะไรทำได่อะไรทำไม่ได้ ในการไปรณรงค์หาเสียงของผู้สมัคร เพื่อต้องยื่นบัญชีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะวิธีการหาเสียง การติดตั้งป้าย การมีผู้ช่วยเหลือที่ไปออกหาเสียง หรือการไปใช้สื่อต่างๆ ต้องอยู่ในวงเงินที่กำหนดเท่านั้น 

สำหรับผู้สมัครรวมถึงผู้สนับสนุน และผู้ช่วยในการออกหาเสียง จะมีข้อห้ามอย่าได้ฝ่าฝืนกฎหมาย ส่วนในพื้นที่กาญจนบุรี ยังไม่พบเรื่องร้องเรียนเข้ามาแต่อย่างใด ฝากไปถึงผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง รวมไปถึง ผู้ที่เป็นสนับสนุน หรือผู้ช่วยในการหาเสียง ต้องเข้าใจในประเด็นถึงข้อห้ามต่างๆ อย่าไปฝ่าฝืนเด็ดขาด หากเกิดปัญหาเหล่านี้อาจจะไปเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้สมัครรายนั้นๆ ได้ดังนั้นผู้สมัครต้องเฝ้าดูแลและห้ามปราม ห้ามมิให้กระทำเด็ดขาด

และที่ใดมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง จะให้คุณหรือให้โทษกับผู้สมัคร ก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ หากเป็นประชาชนโดยทั่วไปไม่มีตำแหน่งหน้าที่ก็ไม่มีปัญหา แต่หากท่านนั้นมีตำแหน่งหน้าที่แล้วเข้าไปช่วยท่านอาจจะมีความผิดอย่างออกหน้าออกตาชัดเจน เรื่องนี้ก็ต้องดูพฤติกรรม เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องวางตัวเป็นกลาง มันอาจจะไม่เข้าข่ายในตำแหน่งหน้าที่ แต่มันจะไปเข้าข่ายว่าท่านเป็นกลางหรือไม่ ซึ่งมันจะแตกต่างกับตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง เช่น นายก อบต. นายกเทศบาล หรือสมาชิกสภา ซึ่งมันจะแตกต่างกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ หรือกำนันผู้ใหญ่บ้าน

นายศรัณยู อาทิตยศรัณยากร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี ฝากย้ำว่า ปัญหาต่างๆ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเรื่องนั้นชัดเจนแล้วเป็นจริงท่านนั้นก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ประชาชน สื่อมวลชน ก็มีสิทธิ์ตรวจสอบ และหากมีการร้องเรียนก็ต้องมีการตรวจสอบตามกระบวนการ โดยหลักแล้วข้าราชการย่อมรู้ดีว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และความจะอยู่ในขอบเขตอย่างไร หากตรวจสอบแล้วว่าผู้นั้นกระทำผิดก็จะมีรางวัลต่อเมื่อผ่านเสร็จสิ้นกระบวนการสอบสวน หรือผู้นั้นได้ถูกตัดสินและถูกดำเนินคดีแล้วเท่านั้น

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน