เกาะล้าน วิกฤตหลังชาวไทย-เทศแห่เที่ยววันละนับหมื่นราย ทำน้ำอุปโภค-บริโภคขาดแคลน ด้านเมืองพัทยา เร่งแก้ไขประสานกองทัพเรือช่วยเหลือส่งน้ำดิบ พร้อมเตรียมประชุมเร่งด่วนร่วมการประปาฟื้นแนวทางวางท่อลอดส่งน้ำ หลังเคยวางแผนมาแล้วในอดีต

ปัจจุบันหลังที่ประกาศให้มีการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ และผ่อนปรนเรื่องมาตรการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ลง ทำให้เมืองพัทยาซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของโลกมีนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่าง ประเทศจำนวนมากพากันแห่เดินทางมาเที่ยวทั้งในรูปแบบ FIT หรือระบบ Tour จนทำให้เมืองพัทยาที่หลับไหลมานานกว่า 2 ปี กลับมามีสีสันและคึกคักอีกครั้ง

มีรายงานว่าปัจจุบันพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของเมืองพัทยาคือ “เกาะล้าน” ต้องประสพกับปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริภค อย่างมาก ด้วยมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่หนาแน่น ทำให้น้ำประปาจากระบบ RO ที่ทาง บ.อีสเวอร์เตอร์ จ่ายอยู่ประมาณ 300 ลบ.ม./วัน ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงต้องมีการจัดหาน้ำดื่มโดยการซื้อจากเอกชนที่ขนมาจากฝั่งพัทยาเฉลี่ย ลบ.ม.ละ 70-150 บาท ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการเกิดผลกระทบ ด้วยน้ำดิบที่มีราคาค่อนข้างสูง

ด้าน นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่าปัญหาน้ำอุปโภค-บริโภคบนเกาะล้านในปัจจุบันนั้นถือว่ามีปัญหาเป็นอย่างมากหลังเปิดประเทศจนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาวันละไม่ต่ำกว่า 10,000 คน หรือเดือนละไม่ต่ำกว่า 130,000 คน ทั้งในส่วนที่มาพักและไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งตอนนี้ที่เกาะล้านต้องซื้อน้ำมาใช้ ทำให้น้ำขยับราคาขึ้นจากเดิมเป็น ลบ.ม.ละ 100-200 บาท และมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นอีก จึงทำให้น้ำที่ใช้กันอยู่ไม่เพียงพอ

ซึ่งเรื่องนี้เบื้องต้นคงจะประสานทางกองทัพเรือสนับสนุนเรือบรรทุกน้ำดิบมาแจกจ่ายให้กับประชาชนไปก่อน ขณะที่เมืองพัทยาเองก็มีแนวทางแก้ไขใน 2 รูปแบบ คือ ในระยะสั้นที่จะให้ทาง บริษัท อีสวอเตอร์ ที่สัมปทานจากเมืองพัทยาในการเป็นผู้ผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดหรือประปาบนเกาะล้าน โดยมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำจาก 300 ลบ.ม.ต่อวัน เป็น 1,000 ลบ.ม.ต่อวัน

ขณะที่แผนการระยะยาวนั้นจะมีการหารือเพื่อวางระบบน้ำผ่านท่อลอดจากฝั่งไปสู่เกาะล้าน ซึ่งเรื่องนี้เคยมีการหยิบยกมาหารือแล้ว 1 ครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบ แต่พบว่าใน ช่วงที่มีการหารือเรื่องการวางท่อลอดใต้ทะเลนั้น ไม่มีความสะดวก ด้วยบนฝั่งเมืองพัทยาเองก็ยังมีปัญหาการขาดแคลนน้ำจนเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากแหล่งน้ำดิบเหลือน้ำไม่เพียงต่อการผลิตน้ำประปา จึงทำให้แนวคิดในการวางท่อน้ำลอดใต้ทะเลไปยังเกาะล้านถูกระงับไว้ก่อน

อย่างไรก็ตามเมื่อพบว่าเกิดปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของพื้นที่ชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว เมืองพัทยาจึงจะได้นำกรณีนี้ไปหารือหรือศึกษาแนวทางใหม่เนื่องจากแผนงานเดิมมีการจัดทำไว้เกิน 5 ปีแล้ว จึงต้องทำการวางแผนอีกรอบเพื่อหาทางแก้ไขอย่างเร่ง ด่วน ทั้งนี้จะมีการเชิญตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมพิจารณาต่อไป