นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสาโรจน์ สามารถ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมี นายณัฏฐ์ ศรีสุคนธนันท์ ผู้อำนวยการสำนักการโยธา เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือ พร้อมด้วยนายจีรศักดิ์ พูลสง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพัฒนาชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการโยธา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ร่วมพิธี ณ ห้องประชุมประเสริฐ สมะลาภา ชั้น 6 สำนักการโยธา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง

    ชาวบ้านหลายชุมชนพร้อมร่วมมือรื้อย้ายด้วยตนเอง

      รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณสะพานพระราม 7 สิ้นสุดโครงการบริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งจะเป็นการพัฒนาริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง รวมระยะทางประมาณ 14 กม. การดำเนินการโครงการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จากการสำรวจพบว่ามีชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งหมด 14 ชุมชน เป็นบ้านเรือนประชาชน 273 หลังคาเรือน เป็นท่าเทียบเรือและโป๊ะ 9 แห่ง ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รู้สึกไม่สบายใจและเห็นใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและอยู่อาศัยมานาน อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่าบ้านเรือน 273 หลังคาเรือน ได้ปลูกสร้างรุกล้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รัฐบาลได้มีโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทำทางเดินและปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา สำนักงานเขต ในพื้นโครงการ ได้แก่ เขตดุสิต เขตบางซื่อ เขตบางพลัด และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ได้ลงพื้นที่พูดคุยเจรจาสร้างความเข้าใจกับประชาชนในชุมชนที่บ้านเรือนรุกล้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งสอบสวนสิทธิ์ประชาชนผู้อยู่อาศัย สำรวจและประมาณราคาสิ่งปลูกสร้าง ตลอดจนจัดหาที่อยู่ใหม่เพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว ซึ่งประชาชนในชุมชนได้ยินยอมพร้อมใจและให้ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการรื้อย้ายออกไป โดยส่วนใหญ่จะรื้อย้ายด้วยตนเอง

ขอบคุณ 6 ชุมชนต้นแบบ พร้อมเดินหน้าร่วมกันพัฒนาริม 2 ฝั่งเจ้าพระยา

       รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในวันนี้กรุงเทพมหานครได้มอบเงินช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และได้ดำเนินการรื้อย้ายบ้านเรือนที่รุกล้ำออกไปแล้ว จำนวน 6 ชุมชน ประกอบด้วย 1.ชุมชนเขียวไข่กา 2.ชุมชนปากคลองบางเขนใหม่ 3.ชุมชนวัดฉัตรแก้วจงกลณี 4.ชุมชนวัดสร้อยทอง 5.ชุมชนวัดคฤหบดี และ 6.ชุมชนท่าเรือเกียกกาย ซึ่งขณะนี้มีบ้านเรือนที่รื้อย้ายแล้ว จำนวน 53 หลังคาเรือน และโอกาสนี้ในนามของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร ขอขอบคุณประชาชนในชุมชนที่ให้ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครดำเนินการรื้อย้ายบ้านเรือนที่รุกล้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาออกไป ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบที่ดีแก่ชุมชนอื่นๆ ในการให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนาบ้านเมืองและประเทศชาติ ซึ่งการพัฒนานั้นเราจะไม่ทิ้งใครคนใดคนหนึ่งไว้ข้างหลัง เราจะต้องเดินหน้าพัฒนาไปพร้อมๆกัน เพื่อร่วมมือกันปรับภูมิทัศน์บริเวณริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้มีความสวยงาม สำหรับในส่วนชุมชนที่เหลือกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการทำสัญญารื้อย้าย โดยร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเร่งดำเนินการรื้อย้ายให้แล้วเสร็จ และคาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ประมาณเดือน ธ.ค.60