น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ร่วมแถลงท่าทีพรรคเพื่อไทย หลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ออกมาแถลงความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

             นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่า ผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่าพรรคก้าวไกลได้ลำดับ 1 เพื่อไทยลำดับ 2 ขอขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิและเลือกฝ่ายประชาธิปไตย พร้อมแสดงความยินดีที่ก้าวไกลได้ลำดับ 1 และยอมรับที่ก้าวไกลเสนอตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเห็นด้วยที่จะเชิญพรรคร่วมฝ่ายค้าน ฝ่ายประชาธิปไตยร่วมจัดตั้งรัฐบาล

             พรรคเพื่อไทยเห็นว่าในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นในการหารือและกระบวนการต่าง ๆ ขอให้หน้าที่และอำนาจของพรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายดำเนินการ

            นพ.ชลน่าน ตอบคำถามจะใช้ระยะเวลานานเท่าใดจัดตั้งรัฐบาล ว่า หน้าที่จัดตั้งรัฐบาลเป็นของก้าวไกล เบื้องต้นได้มีการประสานในรายละเอียด เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่ต้องมีการพูดคุย ส่วน 309 เสียง จะโหวตนายกฯ ได้หรือไม่ 300-310 เสียง เป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งแน่นอน แต่โหวตนายกฯ ได้หรือไม่ เป็นไปตามข้อกฎหมายว่าต้องได้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา หรือ 376 เสียง ซึ่งต้องอาศัยเสียงโหวตให้ครบ   

            ส่วนที่ถามว่าจะมีพรรคภูมิใจไทยเข้ามาร่วมหรือไม่ นพ.ชลน่าน บอกว่า เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ เราเองไม่ก้าวล่วง

หวังตั้งรัฐบาลจบลงด้วยดี

            ผู้สื่อถามว่าเพื่อไทยกับก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลจะจบลงด้วยดีหรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า มุ่งหวังอย่างนั้น เพื่ออนาคตของประเทศชาติ และความต้องการของพี่น้องประชาชน ที่ฝ่ายประชาธิปไตยชนะอย่างท่วมท้น ส่วนเงื่อนไขของเพื่อไทยนั้น ต้องดูรายละเอียดที่ก้าวไกลกำหนดประเด็นหารือ

             สำหรับกรณี ส.ว.จะกล้าหักเสียงข้างมากหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้มี 309 เสียง การจะโหวตนายกรัฐมนตรี ได้ต้องมี 376 เสียง ซึ่งหลักการเบื้องต้นเป็นภาระหน้าที่ที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องพยายามแสวงหาตัวเลขนี้ให้ได้ และโดยหลักการหากได้รับการมอบหมายจากประชาชน เสียงข้างมากขนาดนี้ ส.ว.น่าจะยอมรับเสียงข้างมากจากประชาชน

           นพ.ชลน่าน ระบุว่า อย่าไปคาดการณ์ถ้าก้าวไกลทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ มีโอกาสถูกโดดเดี่ยวหรือไม่ พร้อมระบุว่าภารกิจขนาดนี้เรายินดีจะช่วยและสนับสนุนให้ทำภารกิจหน้าที่ให้สำเร็จ ในฐานะที่เราเป็นพรรคลำดับ 2

จุดยืนไม่ยกเลิก 112-รอคุยพรรคก่อน

            น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประมาณ 3-4 นาที โดยได้ร่วมแสดงความยินดีซึ่งกันและกัน และเรื่องท่าทีในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทย เคารพก้าวไกลที่ได้เสียงประชาชนอันดับ 1 จึงเคารพเสียงประชาชน ส่วนการพูดคุยเอ็มโอยูในการตั้งรัฐบาลนั้น ยังไม่ได้คุยรายละเอียด และทางพรรคเพื่อไทยจะมีการหารือกันในพรรคก่อน แต่ที่ผ่านมาทุกเวทีต้องมีข้อตกลงกันของแต่ละพรรค

            นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ต้องระบุให้ชัดเจนเรื่องมาตรา 112 จุดยืนของเพื่อไทยชัดเจนไม่สนับสนุนยกเลิก มาตรา 112 และเรื่องกฎหมายที่มีน้องๆ ติดคุก พร้อมที่จะพูดคุยและรับฟัง และเป็นหนึ่งเรื่องที่ต้องคุยกับพรรคก้าวไกล ส่วนข้อเสนอที่จะไปเสนอพรรคก้าวไกลจะมีอะไรบ้างนั้น ขอพูดคุยในพรรคก่อน

ตอบปม "ทักษิณ" กลับไทย ยังไทม์ไลน์เดิม

          น.ส.แพทองธาร ตอบคำถามเรื่องการกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร ว่า ยังยืนยันการกลับมาของพ่อ ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย และเบื้องต้นตอนนี้ถ้าพ่อยังไม่ประกาศเลื่อน ก็ยังคงเป็นช่วงเวลาเดิมที่เคยบอกไว้

ยอมรับพ่ายได้อันดับ 2

            เมื่อถามว่าเป็นความพ่ายแพ้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การเลือกตั้งก็เหมือนกีฬา มีผู้แพ้ผู้ชนะ เมื่อมาเป็นอันดับ 2 ก็ถือว่าผิดหวังบ้าง แต่ก็ยอมรับ และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา และเชียร์เพื่อประชาธิปไตยและเพื่อชาติที่จะไปต่อ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องของการเมือง และทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้า

            ส่วนที่ต้องปรับปรุงหรือไม่ เชื่อว่านโยบายพรรคเพื่อไทยตอบโจทย์ประเทศชาติ แต่ยอมรับก้าวไกลมีจุดแข็ง แต่ก็ขอบคุณประชาชนที่เลือกเราในทุกพื้นที่ทั้ง ส.ส. ที่เข้าสภาด้วย แต่บางส่วนอาจไม่ได้ไปต่อ แม้จะลงพื้นที่อย่างหนัก