ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
อปท.เชิญเป็นแขก ย้อนกลับ
นพ.ศิวคุปต์ตันติภพณัฐกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท คอสเมติก้า คลินิก จำกัด
19 พ.ค. 2566

การศัลยกรรมในทุกวันนี้ ได้การยอมรับและเป็นที่นิยมของคนยุคใหม่เป็นอย่างมาก ทำให้ธุรกิจเสริมความงามเกิดขึ้นมากมาย พร้อมออกโปรโมชั่นพิเศษตามมาอีกเพื่อกระตุ้นผู้คนให้อยากทำศัลยกรรมถึงกระนั้น การศัลยกรรมกับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพเพื่อความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญ ทว่า ในคลินิกที่ผ่านมาตรฐานระดับสากล อาจจะนับจำนวนหัวได้เลย

นั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจของ นพ.ศิวคุปต์ ตันติภพณัฐกุ หรือ หมอเฟย กรรมการผู้จัดการคอส บริษัท คอสเมติก้า คลินิก จำกัด ในวัย 40 ปี ที่คร่ำหวอดในวงการศัลยกรรมมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี และได้เดินตามฝันก่อตั้ง คอสเมติก้า คลินิก ขึ้นมา พร้อมยกระดับบริการให้มีมาตรฐานสากลและมีคุณภาพเทียบเท่าโรงพยาบาล

อทป.นิวส์ ฉบับนี้ จึงอยากจะขอพาท่านผู้อ่านมารู้จัก แพทย์ศัลยกรรมตั้งแต่ยุคบุคเบิกและผู้รอบรู้เทรนด์ศัลยกรรมจากเป็นอย่างดีอย่างหมอเฟย

นพ.ศิวคุปต์ กล่าวกับเราว่า ตัวคุณหมอเป็นคนภูมิลำเนากรุงเทพมหานครฯ แต่ในช่วงวัยเด็กเคยไปอยู่ที่จังลำปาง และเนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ได้ไปประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายเรื่องของเสื้อผ้าส่งออกต่างประเทศ ทำให้คุณหมอมีโอกาสไปศึกษาที่อังกฤษ ช่วงระดับชั้นการศึกษา ประถม – มัธยมก่อนที่จะกลับมาประเทศไทยและได้ศึกษาที่คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวามทั้งยังเคยเรียนต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยสาเหตุที่เลือกเรียนในศาสตร์ของการผ่าตัดความงามนั้น หมอเฟย ได้เผยแรงบันดาลใจเอาไว้ว่า

                “ที่เลือกเรียนด้านนี้ เพราะผมชอบการตกแต่งเสริมสวยความงาม รวมถึงมีความสนใจในเรื่องของการผ่าตัด อีกทั้งได้มีโอกาสรู้จักรุ่นพี่ท่านหนึ่งที่เป็นหมอผ่าตัดที่เก่งมากๆ เลยเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาเรียนเป็นหมอผ่าตัด จนเมื่อตนได้ศึกษามาเรื่อยๆ ทำให้เริ่มมองเห็นเป้าหมาย เกิดเป็นความสนใจที่จะศึกษาด้านการผ่าตัดความงาม ซึ่งหลังจากเรียนจบมาก็ได้ทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลพุทธโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ในแผนกศัลยกรรมทั่วไป ซึ่งจะเป็นการทำศัลยกรรมทุกอย่าง ตั้งแต่ศัลยกรรมอุบัติเหตุ รวมถึงศัลยกรรมเสริมสวย หลังจากนั้นก็ได้เป็นแพทย์พี่เลี้ยงศัลยกรรม”

                หมอเฟย บอกอีกว่า นอกจากนี้คุณหมอยังได้ไปหาประสบการณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติมโดยไปฝึกงานและฝึกอบรมในโรงพยาบาลต่างๆทั้งในเกาหลี ยุโรปและ อเมริกา ซึ่งการไปฝึกงานที่ต่างประเทศจะเน้นการเพิ่มพูนความรู้ด้านการศัลยกรรมเสริมสวย เนื่องจากประเทศไทยไม่ค่อยเน้นด้านนี้มากนัก และจากนั้น ก็ทำงานด้านศัลยกรรมความงามมาอย่างจริงจัง นับจากนั้นเป็นต้นมาไม่ต่ำกว่า10 ปี

ซึ่งจากที่ได้ทำงานด้านศัลยกรรมตั้งแต่ยุคบุกเบิก ทำให้มีโอกาสได้เห็น มุมมองด้านการศัลยกรรมในปัจจุบันกับอดีตที่แตกต่างกัน โดยมุมมองปัจจุบัน ด้านศัลยกรรมถูกยอมรับมากขึ้น โดยเทรนด์การศัลยกรรมในส่วนบอดี้ด้วยการดูดไขมันหรือเสริมหน้าอกกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและศัลยกรรมที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ อีกอย่างคือการ “ตัดหนังหน้าท้อง” เพื่อแก้ปัญหาหน้าท้องย้วยและปัญหาหน้าท้องแตกลายหลังคลอด พุงยื่น ไม่เรียบเนียน ไม่กระชับ ไขมันสะสมหน้าท้อง ขณะที่การศัลยกรรมส่วนใบหน้า ก็ยังคงเป็นเทรนด์เดิมที่คนไทยเน้นเสริมหรือตกแต่งบริเวณ จมูกกับตา เป็นหลัก

                และจากการยอมรับในศัลยกรรมที่มากขึ้นนี้เอง ส่งผลให้คนไข้มีมุมมองที่เปลี่ยนไปด้วยเนื่องจากในอดีต คนไข้หากต้องการทำหลายหัตถการอาจต้องทำกับหมอหลายคน เช่น อยากศัลยกรรมตาก็ต้องทำกับหมอคนที่ 1 ศัลยกรรมจมูกก็ต้องทำกับหมอคนที่ 2 เป็นต้น แต่ปัจจุบันคนไข้มีความต้องการทำศัลยกรรมกับหมอเพียงคนเดียวที่สามารถทำศัลยกรรมหลายๆ ส่วนได้ เพราะในความคิดของคนไข้ การมีหมอคนเดียวทำได้หลายส่วนจะทำให้มองภาพออกได้ดีกว่าทำแยกส่วน

                “เมื่อผมได้ทำงานศัลยกรรมมาได้ซักพัก จนทำให้เกิดความอิ่มตัว เลยอยากเปิดคลินิกเป็นของตัวเองเนื่องจากตนเองมีความรู้สึกอยากจะควบคุมและดูแลคนไข้ให้ดีกว่านี้ อาทิ การดูแลคนไข้หลังผ่าตัด แต่ในอดีตนั้น ตนรับทำงานจากคลินิกอื่นๆ เลยอาจไม่สามารถดูแลได้อย่างคลอบคลุมหรือใกล้ชิด เลยอยากทำเป็นคลินิกของตนเองขึ้นมา” นพ.ศิวคุปต์ เผยด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่น

                หมอเฟย เล่าต่อว่าคอสเมติก้า คลินิก ถือเป็นแรงบันดาลใจและความฝันที่อยากจะยกระดับบริการให้มีมาตรฐานสากลมากขึ้น เริ่มตั้งแต่การมอบความรู้ ความปลอดภัยในการบริการให้กับคนไข้ การใส่ใจ รวมถึงการแนะนำสิ่งที่ถูกต้องให้กับคนไข้ 

                ซึ่งคอสเมติก้า คลินิก จะมุ่งเน้นส่งเสริมการบริการที่ดีขึ้นผ่านการยกระดับมาตรฐานในเรื่องของแพทย์ และห้องผ่าตัด เรื่องการสั่งยาและการผ่าตัด ให้อยู่ในระดับเทียบเท่าโรงพยาบาล รวมทั้งเป็นการให้บริการคนไข้ที่ทั่วถึงและครอบคลุม โดยในอนาคตก็คาดว่า จะพัฒนาคลินิกสู่โรงพยาบาลเต็มรูปแบบ ภายใต้มาตรฐานการบริการที่สูงได้คุณภาพระดับสากล ซึ่งปัจจุบันคนไข้ ได้เข้าถึงและยอมรับการศัลยกรรมในวงกว้าง ส่งผลให้มีความกังวลและความต้องการที่หลากหลาย เช่น การผ่าตัดใหญ่คนไข้จะห่วงว่าตนเองจะนอนหลับวิธีไหน ดมยาสลบวิธีไหน ใครเป็นคนดมยาสลบให้กับเขา ซึ่งคอสเมติก้า คลินิก เข้าใจถึงความต้องการของคนไข้เป็นอย่างดี จึงได้ให้วิสัญญีแพทย์ หรือหมอดมยา เป็นผู้ดูแลโดยเฉพาะ

เพราะการผ่าตัดและต้องมีการดมยา เมื่อคนไข้ได้รับยาสลบไปแล้ว คนไข้จะหลับลึก​ เมื่อคนไข้หลับลึกจะไม่สามารถหายใจเองได้​ ต้องหายใจผ่านเครื่องช่วยหายใจ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ต้องมี “วิสัญญีแพทย์” คอยดูสัญญาณชีพขณะผ่าตัดอย่างใกล้ชิด เป็นการการันตีความปลอดภัยให้กับคนไข้ ซึ่ง หมอเฟย ได้บอกเล่าถึงความปลอดภัยของคนไข้ไว้ว่า

                “จริงๆ แล้วผมก็สามารถดมยาได้ในระดับเบื้องต้น แต่เพื่อความปลอดภัยมากที่สุดของคนไข้ ก็ควรจะใช้หมอดมยาโดยเฉพาะเลยดีกว่า ดังนั้นคนไข้หนึ่งคนจะมีหมอดดูแลอยู่ 2 คน คือ หมอผ่าตัดและหมอดมยา ที่ดูเรื่องของการนอนหลับของคนไข้ ซึ่งเป็นเรื่องอันดับแรกๆ ที่คนไข้กังวล ว่าหลังจากดมยาสลบจะตื่นหรือไม่”

                นพ.ศิวคุปต์ บอกต่อว่า สำหรับเรื่องที่ 2 ที่คนไข้มักกังวลคือ มาตรฐานห้องผ่าตัด ซึ่งห้องผ่าตัดของคอสเมติก้าคลินิก จะใช้ระบบ Hepa ตามมาตรฐานห้องผ่าตัด ซึ่งHepa จะเป็นตัวกรองอากาศ ก่อให้เกิดบรรยากาศในห้องผ่าตัดที่เป็นความดันลบ เพื่อให้อากาศภายนอกไม่ถูกดูดเข้ามา ทำให้ห้องผ่าตัดมีความสะอาดตลอดเวลา นอกจากนี้ระบบ Hepa จะมีการกรองเชื้อไวรัส เชื้อโรค โดยคลินิกในประเทศไทยยังมีน้อยที่จะได้มาตรฐานระดับนี้และเรื่องที่ 3 ที่คนไข้ส่วนใหญ่เป็นกังวล คือการดูแลคนไข้หลังผ่าตัดจะเป็นอย่างไร เพราะคนไข้ส่วนใหญ่มีความกังวลว่าหลังจากผ่าตัดแล้วจะต้องมีการพักรักษาตัวอย่างไรบ้าง ซึ่งเพื่อเพิ่มความอุ่นใจกับคนไข้ตนจึงมีบริการหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด

                นอกจากนี้ คุณหมอก็อยากนำความรู้และประสบการณ์ที่มีเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม ซึ่งถ้ามีเคสไหนที่สามารถช่วยเหลือได้ก็ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่เท่าที่สามารถช่วยได้ อย่างที่ผ่านมา พบเคสที่ประสบภัยมา คุณหมอก็ได้ช่วยมาโดยตลอด

“ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรึกษากับทนายสงกรานต์ ในการช่วยเหลือเคสต่างๆ เช่นเคสที่ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้ น้ำร้อนลวกทั้งตัวจากการรับน้องทำให้เป็นแผลเหวอะหวะและกลายเป็นแผลเป็นทั่วตัว ผมจึงได้ลงไปช่วยในการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อต่างๆ รวมไปถึงเคสของคนไข้ที่ไปทำศัลยกรรมหรือเคสมีปัญหาจากคลินิกอื่นมา ถ้าหากแก้ไขได้ผมก็จะอยากไปช่วยเหลือ ทั้งนี้เป็นการช่วยเหลือโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ”

                และนี่คือผลงานความสำเร็จของหมอเฟย ที่มีจุดเริ่มต้นจากความหลงใหลในการผ่าตัด เกิดเป็นความสนใจที่ศึกษาจริงจัง จนกลายเป็นแรงขับผลักดันให้กับหมอเฟยประสบความสำเร็จในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม กว่าจะเป็นหมอศัลยกรรมที่เชี่ยวชาญได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายโดยสิ่งที่ทำให้หมอเฟยฟันฝ่าอุปสรรคมาถึงปัจจุบันได้คือ ความตั้งใจและใส่ใจ รวมถึงจริงจังกับทำงานในทุกๆ เคสที่เข้ามา พร้อมทำทุกเคสให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

                อีกทั้งการรักษาในรูปแบบศัลยกรรม มักจะผูกพันอยู่กับความต้องการของคนไข้เสมอ ซึ่งหลายๆ ครั้งความต้องการของคนไข้กับการรักษามักไม่สอดคล้องกัน ดังนั้น คุณหมอจึงได้มีการพูดคุยกับคนไข้ก่อนเสมอ เพื่อให้เขาเห็นภาพความเป็นจริงว่าทำได้แค่ไหน รวมถึงถ้าหากทำไม่ได้หรือมีทางเลือกอะไรหรือไม่ ก็จะบอกคนไข้อย่างตรงไปตรงมา จากการรับมือกับปัญหาที่แก้ตั้งแต่ต้นทาง ทำให้กว่า 95% จากการผ่าตัดและหลังผ่าตัดไม่เคยเกิดปัญหาตามมา เนื่องจากตนได้ทำความเข้าใจกับคนไข้เรียบร้อยแล้ว

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...