สำนักงานพลังงานจังหวัดนครนายก กระทรวงพลังงาน เปิดศูนย์เรียนรู้ “รักษ์ดิน ถิ่นพลังงานยั่งยืน” ชี้ได้ต่อยอดการใช้พลังงานทดแทน มาสู่การสร้างอาชีพให้ชุมชน แปรรูป “ใบหมี่” สมุนไพรหลักในพื้นที่ มาเป็นแชมพู ผลิตภัณฑ์ OTOP ของชุมชน สร้างรายได้ที่ยั่งยืน และเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านพลังงานให้กับชุมชน

      นายอำนวย คงกระพันธ์ พลังงานจังหวัดนครนายก กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้นำสื่อมวลชนเพื่อเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ “รักษ์ดิน ถิ่นพลังงานยั่งยืน” ซึ่งเป็นลักษณะวิสาหกิจชุมชน บ้านวังไทร ม.6 ต.เขาพระ จ.นครนายก โดยมีแนวคิดเพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้มีชีวิต “ทำจริง อยู่จริง ใช้จริง” เกิดจากการรวมกลุ่มกันของสมาชิกในชุมชน ที่ได้รับการส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้ในชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ ชุมชนจะลดค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตประจำวัน ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

     ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานจังหวัดนครนายก ได้ร่วมขยายผลเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน จากจุดเริ่มต้นที่ศูนย์ฯ มีเตาเผาถ่าน 200 ลิตร โดยปัจจุบันภายในศูนย์ฯ ได้ใช้ระบบโซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้า ขนาด 2,850 วัตต์ เพื่อใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและปั้มน้ำเพื่อการเกษตร ระบบก๊าซชีวภาพ ขนาด 2 คิว และที่สำคัญคือการใช้โรงอบแห้งแสงอาทิตย์ ขนาด 3 x 4 เมตร เพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรในชุมชนตามโครงการเพิ่มสมรรถนะด้านการบริหารและจัดการพลังงานครบวงจรในระดับตำบลและวิสาหกิจชุมชน (SMEs)

     สำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรในชุมชน ซึ่งได้ใช้ประโยชน์จากพลังงานทดแทนด้วยระบบอบแห้งแสงอาทิตย์ โดยได้นำ “ใบหมี่” ซึ่งถือเป็นสมุนไพรวัตถุดิบหลักในพื้นที่มา แปรรูปเป็นแชมพูใบหมี่ ผลิตภัณฑ์ OTOP สามดาวของชุมชน และถือเป็นสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้ออกสู่ตลาด เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยคุณสมบัติของใบหมี่ จะเป็นสารจากธรรมชาติที่ลดการระคายเคืองมากกว่าสารสังเคราะห์ ลดการก่อมะเร็ง และลดกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งในใบหมี่จะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและผมได้อย่างปลอดภัย จึงถือเป็นสินค้าคุณภาพที่เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติอย่างแท้จริง และยังมีผลิตภัณฑ์อื่น เช่น สบู่ฟักข้าว สบู่ถ่านไม้ไผ่ สบู่ผงกาแฟ แชมพูถ่านไม้ไผ่ เป็นต้น 

    “ศูนย์เรียนรู้ รักษ์ดิน ถิ่นพลังงานยั่งยืน ถือเป็นสถานที่ศึกษา ดูงาน เรียนรู้ด้านพลังงาน ด้านการเกษตร ที่ทำจริง ใช้จริง และเห็นผลได้จริง อีกทั้งยังเป็นสถานที่สำคัญในการสร้างสินค้า OTOP แปรรูปสมุนไพรท้องถิ่น ให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่ง และจะเป็นการสร้างความเป็นอยู่ตามเศรษฐกิจพอเพียง ลดการพึ่งพาจากภายนอก พึ่งพาพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพ และสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป”