นายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการกองชั่งตวงวัด เปิดเผยว่า นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบปริมาณบรรจุก๊าซหุงต้มทั้งในส่วนของร้านค้าและโรงบรรจุก๊าซเป็นประจำ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบและจับกุมร้านค้าและโรงบรรจุก๊าซที่พบว่าบรรจุไม่เต็มปริมาณรวม 3 ราย ดังนี้
รายแรก เป็นร้านค้า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 กองชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบตามที่มีผู้ร้องเรียนว่า ได้ซื้อก๊าซหุงต้ม ขนาด 4 กก. จากร้านค้าใน จ. สมุทรปราการ พบว่าใช้หมดเร็วกว่าปกติ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบปริมาณก๊าซหุงต้มขนาดบรรจุ 4 กก. ที่ร้านแห่งนี้ จำนวน 5 ถัง พบว่าน้ำหนักของก๊าซหุงต้มแต่ละถังขาดไปถังละ 0.5 กก. จึงได้จับกุมและดำเนินคดีในข้อหาขายหรือจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อขายหรือจำหน่ายซึ่งสินค้าหีบห่อที่แสดงปริมาณไว้ โดยรู้ว่าปริมาณของสินค้าที่บรรจุใน
หีบห่อไม่ถูกต้องตามที่แสดงไว้ซึ่งน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ตามมาตรา 85 และมาตรา 88 แห่ง พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รายที่สอง เป็นโรงบรรจุก๊าซ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 2-5 สุรินทร์ บูรณาการร่วมกับคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด
ศรีสะเกษ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโรงบรรจุก๊าซหุงต้มใน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จากการสุ่มตัวอย่างถังบรรจุก๊าซขนาด 15 กก. ที่บรรจุเรียบร้อยแล้ว จำนวน 60 ถัง พบว่ามีน้ำหนักของก๊าซหุงต้มแต่ละถังขาดไปถังละ 1.5 กก. ทุกถัง จากการตรวจสอบความเครื่องชั่งที่ใช้ชั่งน้ำหนักก๊าซที่บรรจุพบว่าเครื่องชั่งแสดงค่าน้ำหนักถูกต้อง แสดงว่าผู้บรรจุก๊าซมีเจตนาที่จะบรรจุก๊าซหุงต้มให้ไม่ครบตามน้ำหนักที่แสดงไว้ข้างถัง จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนเขวา เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีในข้อหาบรรจุสินค้าหีบห่โดยรู้ว่าปริมาณของสินค้าที่บรรจุในหีบห่อไม่ถูกต้องตามที่แสดงไว้ซึ่งน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รายที่สาม เป็นโรงบรรจุก๊าซ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) ร่วมกับสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 2-5 สุรินทร์ สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 2-4 อุบลราชธานี และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ เข้าตรวจสอบโรงบรรจุก๊าซหุงต้มแห่งหนึ่งในเขต อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ จากการสุ่มตัวอย่างถังบรรจก๊าซหุงต้มขนาด 15 กก. ที่บรรจุเรียบร้อยแล้ว จำนวน 17 ถัง พบว่ามีน้ำหนักของก๊าซหุงต้มแต่ละถังขาดไปถังละ 0.4 - 0.5 กก. จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.อำนาจเจริญในข้อหาบรรจุสินค้าหีบห่อโดยรู้ว่าปริมาณของสินค้าที่บรรจุในหีบห่อไม่ถูกต้องตามที่แสดงไว้ซึ่งน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้นำตัว เพื่อดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปทั้งนี้ การบรรจุหรือการขายก๊าซหุงต้มที่บรรจุไม่เต็มปริมาณถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค ในการนี้จึงขอแจ้งเตือนร้านค้าที่รับก๊าซหุงต้มบรรจุถังมาจำหน่ายต้องตรวจสอบความถูกต้องของน้ำหนักก๊าซด้วย และขอแนะนำให้ประชาชนซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ควรสังเกตว่าปริมาณก๊าซที่บรรจุนั้นสามารถใช้ประกอบอาหารได้เท่ากับที่เคยใช้หรือไม่ หมดเร็วผิดปกติหรือไม่ เช่น ถ้าปกติเคยใช้ก๊าซหุงต้ม 15 กก. ได้เป็นเวลา 3 เดือน ต่อมาใช้ได้น้อยกว่านั้นควรตรวจสอบสาเหตุว่าก๊าซที่ซื้อมานั้นบรรจุเต็มน้ำหนักหรือไม่ หรือเกิดจากปัญหาอื่น เช่น การรั่วซึม เป็นต้น ทั้งนี้ ในปี 2565 มีการจับกุมโรงบรรจุและร้านค้าจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งสิ้น 25 ราย และตั้งแต่ปี 2566 - ปัจจุบัน มีการจับกุม ทั้งสิ้น 14 ราย โดยกรมการค้าภายในจะยังคงเข้มงวดในการตรวจสอบความถูกต้องของปริมาณบรรจุก๊าซหุงต้มและสินค้าหีบห่ออื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้กับประชาชนผู้บริโภค หากประชาชนหรือร้านค้ามีข้อสงสัยหรือพบว่าน้ำหนักก๊าซหรือสินค้าอื่นๆ ที่บรรจุในหีบห่อไม่ครบตามปริมาณที่แสดง สามารถแจ้งมาที่สายด่วน 1569 หรือ line @ MR.DIT