ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
กรมชลฯ รุกแก้ปัญหาพื้นที่ลุ่มน้ำอิงอย่างยั่งยืน
27 พ.ค. 2566

กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการประตูระบายน้ำและอาคารประกอบบ้านดอยอิสาน จังหวัดพะเยา หวังบรรเทาปัญหาอุทกภัยและขาดแคลนน้ำต้นทุน ให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำอิง จังหวัดพะเยาและเชียงราย มีผลงานคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 61 คาดก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนในปี 2567
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า  โครงการประตูระบายน้ำบ้านดอยอิสานพร้อมอาคารประกอบ เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ในพื้นที่ลุ่มน้ำอิง ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ตั้งอยู่ที่บ้านดอยอิสาน หมู่ที่ 2 ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา มีลักษณะเป็นประตูบานตรงรับน้ำ 2 ทาง จำนวน 6 ช่อง ความจุเก็บกักประมาณ 1 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีผลการดำเนินงานคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 61  นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำอีก 3 แห่ง ได้แก่  สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านดอยอิสาน ม.2 บ้านดอยอิสาน ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา พื้นที่ชลประทาน 1,900 ไร่ (ระยะเวลาดำเนินการ ปี 2567-2568) , สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านป่าตึงงาม 1 ม.6 บ้านม่อนป่ายางใต้ ต.หนองแรด อ.เทิง จ.เชียงราย พื้นที่ชลประทาน 2,100 ไร่ (ระยะเวลาดำเนินการ ปี 2568-2569) , สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านป่าตึงงาม 2 ม.3 หนองแรดใต้ ต.หนองแรด อ.เทิง จ.เชียงราย พื้นที่ชลประทาน 1,800 ไร่ (ระยะเวลาดำเนินการ ปี 2568-2569) และยังมีแผนดำเนินการขุดลอกลำน้ำอิง พร้อมปรับปรุงแก้มลิงพร้อมอาคารประกอบในปี 2569 อีกด้วย
ทั้งนี้ หากโครงการฯแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำอิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองแรด ตำบลเวียง ตำบลศรีดอนไชย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย และตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา สามารถส่งน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในฤดูฝนได้ประมาณ 12,000 ไร่ และฤดูแล้งได้ประมาณ 7,200 ไร่ ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ทำให้ราษฎรในพื้นที่มีรายได้ต่อปีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคต

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...