เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 20 มิ.ย.66 ที่วัดหนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พระพิพัฒน์ศึกษากร เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ ประธานในพิธีสรงน้ำพระราชทานน้ำหลวงอาบศพพระครูโกศลนวการ "หลวงปู่ปั่น"กวิสสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่ม อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลทุ่งลูกนก โดยมี นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ประธานฝ่ายฆารวาส พร้อมคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ร่วมสรงน้ำและไว้อาลัยหลวงปู่ปั่น กวิสฺสโร พระเกจิชื่อดังศิษย์สายตรงของหลวงปู่หลิว ได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 14.19 น. ณ โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ สิริอายุ 94 ปี
สำหรับประวัติของ หลวงปู่ปั่น กวิสฺสโร เดิมชื่อ นายปั่น รูปสม เกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2472 ปีมะเส็ง บิดา ชื่อ นายกัน รูปสม มารดาชื่อ นางปัด รูปสม บ้านเดิมเลขที่ 1 หมู่ 7 ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่ออายุ 24 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดสนามแย้ ต.สนามแย้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ตรงกับวันที่ 26 มี.ค. 2496 โดยมี พระครูจริยาภิรัต (โป๊ะ) เจ้าอาวาสวัดลูกแก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพุทธสรโสภณ เจ้าอาวาสวัดดอนขมิ้น เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการหลิว เจ้าอาวาสวัดสนามแย้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงปู่ปั่น ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้ นักธรรมโท นักธรรมเอก แล้วหันมาสนใจวิชาทางพุทธาคมต่างๆจาก หลวงปู่หลิว ปุณณโก เจ้าอาวาสวัดสนามแย้ ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น หลวงปู่หลิวจึงบอกให้ไปเรียนกับพระเกจิอีกรูปหนึ่งคือหลวงปู่หนู ฉินนกาโม วัดทุ่งแหลม จ.ราชบุรี ผู้เป็นเอกแห่งวิชาหนุมานเชิญธง นอกจากนี้ ยังได้ไปเรียนกับ หลวงพ่อหว่าง ธัมมสโร วัดกำแพงแสน ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก และเป็นสหายธรรมกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง อีกทั้งไปเรียนกับหลวงพ่อลำเจียก ติสสโร วัดศาลาตึก, พระครูสถิตวุฒิคุณ หรือ "หลวงพ่อปลั่ง เขมจาโร" วัดหนองกระทุ่ม ทั้งนี้ หลวงพ่อหว่าง วัดกำแพงแสน ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสนด้วย หลวงปู่ปั่นจึงนับเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันกับหลวงปู่แผ้ว เรียนวิชาพญาเต่าเรือน
หลังจากนั้นมา หลวงปู่ปั่น ก็คอยติดตามรับใช้หลวงปู่หลิวมาตลอด หลวงปู่หลิว ปณฺณโก เมตตาหลวงปู่ปั่นมาก ซึ่งสมัยตอนหลวงปู่หลิวมีชีวิตอยู่ วัดหนองกระทุ่ม จะเป็นวัดอุปถัมภ์ของหลวงปู่หลิวมาโดยตลอด อาสนะสถานต่างๆในวัดหนองกระทุ่ม จะได้รับการสนับสนุน ช่วยเหลือจากหลวงปู่หลิวเป็นส่วนใหญ่
วีรวิชญ์ โรจนอัครพงศ์ /ทีมข่าวนครปฐม