พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) รมว.ต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรียืนยันถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน โดยในปีนี้เป็นปีครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย ซึ่งการเยือนไทยของ รมว.ต่างประเทศรัสเซียครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดียิ่งในการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน และหวังว่าจะได้มีโอกาสพบปะหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในช่วงการประชุม BRICS Summit ครั้งที่ 9 ณ เมืองเซียะเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีนในเดือน ก.ย.นี้ด้วย
สำหรับความสัมพันธ์ด้านการค้าไทยและรัสเซียพร้อมจะผลักดันมูลค่าการค้าทวิภาคีให้เพิ่มขึ้น 5 เท่าภายใน 3 ปี รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเพิ่มการลงทุนระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนรัสเซียเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรม S-Curve และในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงเชิญชวนให้รัสเซียจัดตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยานในประเทศไทยด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้รัสเซียสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนไทยในรัสเซียในภูมิภาคตะวันออกไกล ซึ่ง รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียยินดีให้สิทธิประโยชน์แก่ภาคเอกชนไทยที่ไปลงทุน และหากมีข้อติดขัดในเรื่องใด ขอให้แจ้งแก่ทางรัสเซียเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป พร้อมมองว่าประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรัสเซียยินดีเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับไทยและอาเซียนในทุกด้าน เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้แสดงความขอบคุณที่รัสเซียให้การสนับสนุนการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) และหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียจะใกล้ชิดขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของโอกาสทางเศรษฐกิจไทยในภูมิภาคยูเรเซีย ซึ่ง รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ยินดีผลักดันสมาชิกของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียอื่นๆ ให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเริ่มกระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ และเริ่มการเจรจาการค้าเสรีระหว่างกัน