ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ให้สัมภาษณ์หลังร่วมเวทีเสวนา Respect My Vote ต่อกรณีการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า สำหรับมติพรรค คงต้องรอการประชุมในวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคมนี้ ที่จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของหัวหน้า และกรรมการบริหาร ที่จะกำหนดนโยบายและจุดยืน โดยเฉพาะในเรื่องของการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคม

อย่างไรก็ตาม ในความเห็นส่วนตัว และในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ขอยืนยันจุดยืนเดิมว่า ปชป.จะต้องยืนบนจุดยืนประชาธิปไตย ตรงไปตรงมา และการโหวตนายกรัฐมนตรีควรสนับสนุนนายกฯที่มาจากการรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรักษาหลักการของเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น การเดินหน้าเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจะเป็นไปโดยรวดเร็วและราบรื่น เป็นการเคารพเสียงประชาชน นี่เป็นแนวทางที่ตนเสนอ และหวังว่าการมีจุดยืนที่ชัดเจน เห็นแก่ประเทศชาติในการเดินไปข้างหน้า จะทำให้ ปชป.ได้รับความเชื่อถือกลับคืนมา การปฏิรูปพรรคเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่ง หลังจากการพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา

 “คนส่วนใหญ่มีความเห็นพ้องต้องกันที่ต้องการปฏิรูป แต่การนำเสนอแนวทาง ยังไม่มีความชัดเจน ต้องรอการประชุม ขณะเดียวกันผมก็ขอให้มีการดีเบตสำหรับผู้สมัครหัวหน้าพรรคเหมือนการเลือกตั้งปี 2561 เพื่อให้ทราบถึงจุดยืน วิสัยทัศน์ แนวทาง นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเราเป็นสถาบันทางการเมือง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่สมาชิกทั้งประเทศ จะได้รับรู้รับทราบถึงคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ วิสัยทัศน์ แนวทางของหัวหน้าพรรคคนใหม่” นายอลงกรณ์กล่าว

นายอลงกรณ์กล่าวด้วยว่า ตั้งใจว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค 2 ปีเท่านั้น เพื่อปรับพื้นฐาน สร้างแนวทางประชาธิปไตย สร้างคนรุ่นใหม่ นโยบายใหม่ วิสัยทัศน์ใหม่ จากนั้นจะลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่สืบสานงานต่อ

“ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงแล้ว ช่วงเปลี่ยนผ่านไม่ง่าย จากจุดต่ำสุด ที่เหลือ ส.ส. 25 คน ป๊อปปูลาร์โหวตแค่ 8 แสน ตกจากเกือบ 12 ล้าน ดังนั้นไม่ใช่งานง่าย การปฏิรูปโครงสร้าง กระจายอำนาจไปยังสาขาพรรคทั่วประเทศ การเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ เช่น แอลจีบีที ต้องปรับเชิงระบบครั้งใหญ่” นายอลงกรณ์กล่าว

กรณีมีกระแสข่าวชื่อ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ปรากฏชื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป.ด้วยนั้น นายอลงกรณ์กล่าวว่า ก็ทราบตามข่าว ยังเป็นเพียงคนเดียวที่ประกาศลงสมัครอย่างเปิดเผย ขอเรียกร้องให้หลายๆ ท่านมาช่วยลงสมัคร และเปิดตัวอย่างชัดเจน และดีเบตในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเหมือนในอดีตที่เคยทำ ซึ่งเข้าใจว่าจะทำให้ ปชป.ได้สะท้อนถึงความเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีวัฒนธรรมประชาธิปไตยภายในพรรค

ในวันที่ 8-9 กรกฎาคมนี้ จะมีแฟนคลับของนายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปร่วมประชุมเลือกกรรมการบริหารพรรคด้วยนั้น นายอลงกรณ์กล่าวว่า การประชุมใหญ่ของพรรคถือว่าเป็นกิจกรรมสำคัญมาก สมาชิกสามารถที่จะไปร่วมในการสังเกตการณ์ได้อยู่แล้ว เหมือนทุกครั้ง แต่องค์ประชุมจะมีเกือบ 400 คน ที่เป็นตัวแทนของ 19 กลุ่ม เป็นโหวตเตอร์ที่มีสิทธิในการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นความงดงามที่สมาชิกพรรคสนใจมีส่วนร่วม

“ผมมีความมั่นใจในการที่จะฟื้นฟูปฏิรูปพรรค เพราะเป็นคนผลักดันการปฏิรูปพรรค เสนอให้ปฏิรูปมาตั้งแต่ปี 2556 และเป็นรองหัวหน้าพรรค 4 สมัย เป็น ส.ส. 6 สมัย เป็นรัฐมนตรีมาแล้ว ดังนั้น มั่นใจว่า 30 ปีของการที่อยู่กับ ปชป. ไม่เคยย้ายพรรค ไม่เคยไปไหน ทุ่มเททำงานให้พรรค มีความเข้าใจในปัญหาของพรรค แต่ขณะเดียวกันก็เห็นว่าพรรคจำเป็นต้องปฏิรูป ต้องเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่” นายอลงกรณ์กล่าว