นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการจัดงานประชุมนานาชาติโครงการภาคีเครือข่ายความร่วมมือโลกว่าด้วยการบริหารการค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง 2017 หรือ Thailand Consortium: Trade Control on Weapons of Mass Destruction related Items 2017 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ภาคเอกชนไทยตื่นตัวเร่งเตรียมความพร้อมให้สามารถปฏิบัติตามมาตรการภายใต้ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้สินค้าที่ใช้ได้สองทางเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและกำหนดสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2558 อย่างต่อเนื่อง โดยขอให้กรมฯ ลงพื้นที่จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการทางเทคนิคเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม 2560 กรมฯ ได้จัดส่งทีมปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายฉบับดังกล่าวแก่สมาชิกที่ให้บริการด้านการขนส่งระหว่างประเทศกว่า 120 ราย ในงานแสดงสินค้า Thailand International Logistics Fair 2017 (TILOG – LOGISTIX) และในช่วงบ่ายของวันเดียวกันทีมปฏิบัติการของกรมฯ ได้เข้าประชุมหารือเชิงปฏิบัติการกับคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของบริษัท อิเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด กว่า 100 ราย โดยอิเล็กโทรลักซ์ เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของไทย มีมูลค่าส่งออกปีละมากกว่าหมื่นล้านบาท

นายวันชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมปฏิบัติการ TCWMD ของกรมฯ จัดเป็นเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจที่มีความเชี่ยวชาญระบบ e-TCWMD เป็นอย่างดี โดยการดำเนินงานของทีมจะแบ่งกลุ่มเจ้าหน้าที่ฯ ให้สอดคล้องกับแต่ละหัวข้อปัญหาของบริษัทฯ ในการให้คำแนะนำและตอบข้อสงสัยเชิงลึก โดยเฉพาะประเด็นการใช้ระบบ e-TCWMD ที่กรมฯ ได้พัฒนาขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออก ซึ่งผู้ประกอบการต่างประทับใจในการทำงานของทีมปฏิบัติการเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องมีพื้นฐานความรู้ในระบบ TCWMD จากการเข้าสัมมนาของกรมฯ มาในระดับหนึ่งจึงจะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ มีความประสงค์จะขอให้ทีมปฏิบัติการฯ ลงพื้นที่ก็สามารถทำได้ โดยรวมกลุ่มกันและรายงานประเด็นปัญหาทางเทคนิคแล้วติดต่อสอบถามมาที่กองบริหารสินค้าข้อตกลงและมาตรการการค้า กรมการค้าต่างประเทศ หรือโทร 1385 ซึ่งกรมฯ มีความยินดีจะใช้แนวทางดังกล่าวเป็นการบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อประโยชน์ทางการค้าของไทย