ธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ กำหนดปฏิทินลงพื้นที่สอดส่องโครงการ ภาครัฐ ของอปท. ในห้วงเดือนสิงหาคมจำนวน 8 โครงการ เพื่อให้โครงการ ต่างๆเป็นไปด้วยความ โปร่งใส

     วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 นายสมบูรณ์ นาสาทร ประธานสายธรรมาภิบาล ออกตรวจสอดส่องพื้นที่ พร้อมด้วยนายวีระศักดิ์ จันทะสงคราม นายสุนทรา กุลาสา นายจำลอง ขจรกุล ธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ เพื่อสอดส่องโครงการ ของหน่วยงานอปท.จำนวน 2 หน่วยงาน ประกอบไปด้วยเทศบาลตำบลโนนบุรีอำเภอสหัสขันธ์จำนวน 1 โครงการ และเทศบาล ตำบลภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์จำนวน 1 โครงการ

   ในส่วนของเทศบาลตำบลโนนบุรีนั้น คณะกรรมการได้มีการประชุมสรุปเนื้องานของโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแหลมโนนวิเศษ หมู่ที่ 9 โดยปรับปรุง เป็นหาดทรายเทียม พื้นที่ 6,400 ตารางเมตร และลานจอดรถพื้นที่ 2,000 ตารางกิโลเมตร ศาลาเอนกประสงค์ขนาดกว้าง 4 เมตรยาว 8 เมตร ระบบไฟฟ้าส่องสว่างพร้อมอุปกรณ์ งบประมาณทั้งสิ้น 5,916,000 บาท โครงการนี้เบื้องต้นนายบุญมี แก่นนาคำ นายกเทศมนตรีตำบลโนนบุรี และนายอรุณ วงละคร ปลัดเทศบาลโนนบุรีชี้แจงว่า ทางเทศบาลได้ดำเนินการและได้ผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว แต่รอให้ทาง ชลประทาน ซึ้งเป็นเจ้าของพื้นที่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อนถึงจะลงมือทำได้ ช่วงนี้จึงขอกันเงินเอาไว้ก่อน

    จากนั้นคณะกรรมการธรรมาภิบาล ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังเทศบาลตำบลภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์ เพื่อสอดส่องโครงการปรับปรุงซ่อมแซมสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่บริเวณบ้านโนนสมบูรณ์ เบื้องต้นนายอดิศักดิ์ สมคะเณร นายกเทศมนตรีตำบลภูสิงห์ ได้อธิบายชี้แจ้งในห้องประชุมของเทศบาลตำบลภูสิงห์ว่า ทางเทศบาลได้ผู้รับจ้างและได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะดำเนินการสูบน้ำจากเขื่อนลำปาวลงสู่ท่อ ใต้ดืนเพื่อแจกจ่ายน้ำไปตามพื้นไร่นาสวนยางบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนครอบคลุมไปทุกพื้นที่แล้ว

   นายอดิศักดิ์ สมคะเณร นายกเทศบาลตำบลภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า เครื่องสูบน้ำแรงสูงนี้ ได้รับจัดสรรงบประมาณจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบปรัมาณ 2666 ประกอบด้วย หม้อแปลง เบรกเกอร์ ตู้ไฟ ถือว่าเป็นโรงสูบน้ำแรงสูงที่ขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ 315 แรงม้า สามารถสูบน้ำขึ้นสู่พื้นที่ภูสิงห์ เพื่อรับน้ำมากกว่า 30% ของพื้นที่ จากนั้นจะปล่อยน้ำเป็นระบบท่อและระบบคลองลงพื้นที่ ส่วนระบบท่อจะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 5 ไร่บนภูเขา ซึ่งเราจะปล่อยลงท่อขนาด 8 นิ้วไปยังพื้นที่ของพี่น้องเพื่อทำการเกษตร ไม่ว่าจะทำนา ทำอ้อย ทำสวนมันสำปะหลังและสวนยางพารา อีกส่วนหนึ่งก็จะปล่อยไปในระบบคลองเข้าสวนยางพารา เข้าแปลงหญ้าพี่น้องเพื่อทำการเกษตร ที่ผ่านมสจะได้ผลผลิตค่อนข้างจะมากพอสมควร ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 4 ล้านกว่าบาท ซึ่งรัฐจัดสรรให้มา 5 ล้านกว่าแต่เราผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ให้ลดลงเหลือ 4 ล้านกว่าบาท สามารถช่วยภาครัฐได้ล้านกว่า พี่น้องจะได้รับประโยชน์จากหน่วยงานอย่างเต็มที่

   นายสมบูรณ์ นาสาทร ประธานสายสอดส่องพื้นที่ของธรรมาภิบาล กล่าวว่า อยากกจะสร้างความเข้าใจกับทุกหน่วยงานที่ทางคณะกรรมการธรรมาภิบาลแต่ละชุดแต่ละสาย ที่ได้ลงพื้นที่สอดส่องโครงการต่างๆของแต่ละอำเภอและหน่วยงานนั้นๆว่า ทาง
ธรรมาภิบาล ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาจับผิดและตัดสินชี้ถูกผิดและก้าวก่ายการทำงานของแต่ละหน่วยงานตามที่บางท่านเข้าใจกัน แต่เรามีหน้าที่มาสอดส่อง มาช่วยแนะนำ เสมือนมาเป็นเพื่อนพี่น้องที่ปรึกษา หรือพี่เลี้ยงเพื่อให้งานทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ตามหลักของธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดความคุ่มค่า โปร่งใส ตามหลักนิติธรรม สามารถตรวจสอบได้และไม่ส่อไปทางทุจริต หากได้มีการแนะนำและหน่อยงานนั้นๆได้ดำเนินปรับปรุงแก้ไขแล้ว ก็จะรายงานไปตามขั้นตอนเพื่อยุติ และหากพบว่าการดำเนินการส่อไปทางทุจริตหรือไม่โปร่งใสในบางขั้นตอนของโครงการนั้นๆ เมื่อเราแนะนำให้แก้ไขแล้วแต่ยังเพิกเฉย ในส่วนของธรรมาภิบาลก็จะรายงานไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และรายงานหน่วยงานต่างๆที่ร่วมทำข้อตกลงกันไว้(MOU)เช่น ปปท.ดีเอสไอ ปปช. ปปง.ดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอน
ของกฏหมายต่อไป

   สมบูรณ์ นาสาทร ข่าวกาฬสินธุ์ รายงาน