ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
“องอาจ” ชี้ พิพากษาจำคุก คดี “ข้าวจีทูจี” ช่วยยับยั้งทุจริตเชิงนโยบาย
28 ส.ค. 2560

นายองอาจ  คล้ามไพบูลย์  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงคำพิพากษาจำคุกคดี  “ข้าวจีทูจี” ที่มีนักการเมือง  ข้าราชการ  และนักธุรกิจถูกตัดสินจำคุกคนละหลายสิบปีลดหลั่นกันไปว่า  ต้องถือว่าเป็นคำพิพากษาที่เป็นบทเรียนสำคัญของสังคมไทย   โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน  ทั้งนักการเมือง  และข้าราชการ  ที่มีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่น   

นอกจากนั้นคำพิพากษาจำคุกคดี “ข้าวจีทูจี”  ยังมีส่วนอย่างสำคัญในการยับยั้งการทุจริตเชิงนโยบายที่สร้างผลเสียหายแก่ประเทศชาติ บ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ในขณะที่ผู้มีส่วนร่วมกับการทุจริตเชิงนโยบายได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินเงินทองที่ทุจริตไปเป็นจำนวนมาก

คำพิพากษาจำคุกคดี “ข้าวจีทูจี” ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่มีนัยยะสำคัญดังนี้
1. เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่าถึงแม้จะเป็นผู้บริหารระดับสูงของประเทศ  ระดับรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูง   ถ้ามีการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยการเล่นแร่แปรธาตุ จัดฉาก สร้างหลักฐานเท็จ  อำพรางข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อทุจริตแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ  ก็มีโอกาสถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษตามกฎหมายได้ 

2. เป็นบรรทัดฐานทำให้การทุจริตเชิงนโยบายที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมืองเป็นเรื่องที่กระทำได้ด้วยความยากลำบากมากขึ้นในอนาคต

3. เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้นักการเมืองข้าราชการ  นักธุรกิจ พึงสำเหนียกว่าการร่วมมือกันทุจริตคอรัปชั่นอาจเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับจำเลยในคดีข้าวจีทูจี

นายองอาจ  กล่าวต่อไปว่าคำพิพากษาคดีข้าวจีทูจีครั้งนี้ จึงถือเป็นคุณูปการที่สำคัญของการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทำให้ระบบนิติรัฐ  นิติธรรม ของไทยเดินหน้าเป็นหลักให้บ้านเมืองต่อไปได้

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...