จากกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาประเทศไทย ที่สนามบินดอนเมือง ในรอบ 17 ปี จากนั้นได้ขึ้นรถไปยัง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางไปยังศาลฎีกา เพื่อยืนยันตัวบุคคล และเข้ารับฟังคำพิพากษา โดยย่อในคดีที่นายทักษิณ เป็นจำเลยและยังไม่หมดอายุความพร้อมขอออกหมายขัง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 45 นาที
รายงานข่าวแจ้งว่า นายทักษิณ ต้องรับโทษ 3 คดี ได้แก่ 1.คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ ตัดสินเป็นคดีแรกเมื่อ 23 เม.ย.62 คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทย์ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย
2.คดีหวยบนดิน ตัดสินเป็นคดีที่ 2 เมื่อ 6 มิ.ย.62 คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2541 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ระหว่าง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทย์ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ 1 กับพวกรวม 47 คน จำเลยและ 3.คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป ตัดสินเป็นคดีที่ 3 เมื่อ 30 ก.ค. 2563 คดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ของศาลนี้ ระหว่างอัยการสูงสุด โจทย์ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือนายทักษิณ จำเลย
ทั้งนี้ ศาลจึงรับตัวจำเลย หรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้ง 3 คดี ดังกล่าวไว้ 1.ศาลได้แจ้งให้จำเลย หรือจำเลยที่ 1 ทราบคำพิพากษาแล้ว โดยคดี คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ลงโทษจำคุก 3 ปี 2.คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2541 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ลงโทษจำคุก 2 ปี และ3.คดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ลงโทษจำคุก 5 ปี
สำหรับการนับโทษต่อคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 เเละคดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้ให้นับโทษต่อ (คดีที่ 1= 3 ปี , คดีที่ 2 = 2 ปี นับโทษซ้อนกัน ) เเต่ให้นับโทษต่อคดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 จึงรวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี