นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์) ที่ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมจากเวทีการประชุมสุดยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ณ นครโจฮันเนสเบิร์ก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559 โดยได้แสดงให้ที่ประชุมเห็นถึงความจริงใจของประเทศไทยว่าให้ความสำคัญต่อการจัดการปัญหาอาชญากรรมด้านสัตว์ป่าและพืชป่า โดยถือเป็นเรื่องเร่งด่วนในระดับนโยบายของชาติ และเป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ถูกถอดออกจากรายชื่อประเทศที่ต้องทบทวนมาตรการการค้าที่สำคัญของม้าน้ำ และการเสนอของประเทศไทยที่ขอแก้ไขคำอธิบายแนบท้ายของไม้พะยูงขึ้นบัญชี 2 ก็ผ่านการพิจารณา นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้รับการเลื่อนสถานะที่ดีขึ้นจากกลุ่มสถานะน่ากังวลอย่างยิ่ง (Primary Concern) มาอยู่ในกลุ่มสถานะน่ากังวลลำดับรอง (Secondary Concern)  
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการการจัดกิจกรรมดังกล่าว ว่าเพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม ภารกิจ ผลงานด้านการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา และการป้องกันการค้างาช้างของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สู่สาธารณชนต่างๆ รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ ชี้แจง สร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้แก่ประชาชน ผู้ประกอบกิจการ นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ และเพื่อให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่า และงาช้างระหว่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการด้านการปราบปรามมาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกฎหมายต่างๆ ซึ่งการปราบปรามการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญานั้น ต้องอาศัยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน การประสานความร่วมมือทั้งในด้านการข่าว การตรวจค้น การจับกุม และการจัดการของกลาง โดยสถิติทางคดีของ              ด่านตรวจทั้ง 40 แห่ง ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 23 ก.ค.60 ตรวจจับได้ของกลางแยกเป็น ตัวลิ่น 127 ตัว เกล็ดลิ่น 1,093 กิโลกรัม และนอแรดคละขนาด 21 นอ งาช้างแอฟริกา 422 ท่อน งาช้าง 73.9 กิโลกรัม ซากฟันช้าง 1 กิโลกรัม  
สำหรับกิจกรรมรณรงค์ในวันนี้ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่จัดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลงานด้านการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่า และการป้องกันการค้างาช้างของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ผู้ประกอบกิจการ นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าใจและเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าและงาช้างระหว่างประเทศอย่างถูกต้อง และเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่า และงาช้างระหว่างประเทศ