ดร.ผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูการศึกษาพิเศษ ศึกษานิเทศก์ “สรุปผลการดำเนินการจัดการโรงเรียนเรียนร่วม” โดยมีผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เปิดเรียนร่วม จำนวน 115 โรงเรียน ครูการศึกษาพิเศษ 191 คน และศึกษานิเทศก์เข้าร่วมการสัมมนา ณ โรงแรมบางกอก พาเลส เขตราชเทวี
การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูการศึกษาพิเศษ ศึกษานิเทศก์ เป็นกิจกรรมที่ 1 จาก 10 กิจกรรม ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินโครงการการจัดทำระบบการเรียนรู้อาเซียนสู่มาตรฐานสากล และเกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อผู้เรียน โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 สัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “สรุปผลการดำเนินการจัดการโรงเรียนเรียนร่วม” กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.58 และ 12 ธ.ค. 58 ระยะที่ 2 สัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “กรอบการประเมินคุณภาพการจัดการเรียนร่วม” กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 และ 26 ธ.ค. 58
สำหรับโครงการการจัดทำระบบการเรียนรู้อาเซียนสู่มาตรฐานสากล มุ่งเน้นการจัดทำศูนย์การสร้างเสริมศักยภาพเด็กที่มีระบบได้มาตรฐานไว้บริการผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่มีความต้องการพิเศษ ด้วยการปรับภูมิทัศน์ จัดหาสื่อสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยเลือกโรงเรียน 6 แห่ง เป็นโรงเรียนนำร่องของ 6 กลุ่มโซน ได้แก่ โรงเรียนวัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย โซนกรุงธนเหนือ โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง โซนกรุงเทพกลาง โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม เขตพระโขนง โซนกรุงเทพใต้ โรงเรียนประชาอุทิศ เขตดอนเมือง โซนกรุงเทพเหนือ โรงเรียนวัดบางบอน เขตบางบอน โซนกรุงธนใต้ และโรงเรียนแสงหิรัญวิทยา เขตลาดกระบัง โซนกรุงเทพตะวันออก พร้อมกันนี้ได้พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครให้มีความรู้ความสามารถด้านการคัดกรอง การคัดแยก และวินิจฉัยเบื้องต้น การสอนนักเรียนที่มีภาวะเสี่ยง การดูแลสุขภาพจิต และการให้ความรู้ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูบุตรหลานที่ถูกต้อง เหมาะสม
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนที่อยากเรียน ทั้งเด็กปกติและเด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เข้ามาเรียนร่วมในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เด็กและเยาวชนถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อสังคมในอนาคตจึงจำเป็นต้องได้รับการบ่มเพาะคุณงามความดีทั้งร่างกายและจิตใจ ดังนั้นผู้ที่มีหน้าที่ในการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาจึงจำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนทุกคนให้มีความรู้ความสามารถ มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรุงเทพมหานคร และมาตรฐานสากล การสัมมนาในวันนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ ข้อเสนอแนะ และความรู้ระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษที่เรียนร่วมในโรงเรียนได้เป็นอย่างดี ขอให้ทุกคนนำความรู้ที่ได้จากการสัมมนาครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาทักษะของตนเองและมุ่งมั่นพัฒนางานให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป