หัวหน้าฝ่ายคอมพิวเตอร์สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ ใช้ความเชี่ยวชาญ สวมสิทธิ์ กู้เงินฉุกเฉินสมาชิกรายละ 300,000 บาท คาดทำมาต่อเนื่องกว่า 10 ปีพร้อมทำงบการเงินตบตากรรมการ ผู้ตรวจสอบกิจการ ผู้สอบบัญชีรวมถึงที่ประชุมใหญ่ โดยผู้แทนสมาชิกเบื้องต้นตรวจพบความเสียหายแล้วกว่า 50 ล้านบาท สมาชิกสุดทนลงชื่อยื่นวิสามัญเตรียมขับประธานกรรมการยันผู้จัดการฐานควบคุมเงินของสมาชิกมิได้
วันนี้ (11 ตุลาคม 2566) ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ นายมีชัย ไขแสง ผู้แทนสมาชิกและประธานชมรมพิทักษ์สิทธิสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์จำกัดร่วมกับสมาชิก ยื่นหนังสือร้องขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญให้ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์จำกัดเปิดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อซักฟอกข้อเท็จจริงกรณีหัวหน้าฝ่ายคอมพิวเตอร์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูการฬสินธุ์ สวมสิทธิ์สมาชิกกู้เงินฉุกเฉินคนละ 300,000 บาทเบื้องต้นเสียหายที่ตรวจพบแล้วกว่า 50 ล้านบาทโดยใช้ความเชี่ยวชาญทางฝ่ายคอมพิวเตอร์ทำงบการเงินอันเป็นเท็จโกหกที่ประชุมใหญ่ และกรรมการผู้จัดการ ผู้ตรวจสอบกิจการ รวมถึงผู้สอบบัญชีรับอนุญาตมานานกว่า 10 ปีโดยมีพฤติกรรมเบื้องต้นพบว่าเพิ่มชื่อในรายการอนุมัติเงินกู้ขั้นตอนการโอนเงินได้โอนเข้าบัญชีส่วนตัวของตนเองแทนบัญชี โดยสมาชิกมักจะมาทำงานแต่เช้าและลบข้อมูลลูกหนี้ออกจากระบบควบคุมสมาชิกกว่าจำนวนมาก เตรียมขับผู้เกี่ยวข้องทั้งกระบวนการเชื่อว่าไม่ได้ทำคนเดียวและน่าจะมีความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาท
นายมีชัย ไขแสง ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิ์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์จำกัดกล่าวว่า"เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีการยักยอกเงินของสหกรณ์โดยผู้กระทำการครั้งนี้เป็นถึงหัวหน้าฝ่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งสหกรณ์ได้จ้างบริษัทเอกชนเข้ามาสร้างระบบควบคุมระบบสหกรณ์ แต่ปรากฏว่าพนักงานได้ใช้ความเชี่ยวชาญแอบสวมสิทธิ์กู้เงินฉุกเฉินสมาชิกรายละ 300,000 บาทโดยเบื้องต้นตรวจพบว่าได้ลบข้อมูลมิให้เจ้าตัวสมาชิกรับรู้ว่าเป็นหนี้เป็นการโกงซ้ำซากที่เกิดขึ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์มายาวนานตั้งแต่แชร์ล็อตเตอรี่ 700 ล้านบาท เงินค่าสงเคราะห์ศพ 50 ล้านบาท และล่าสุดเกิดเหตุการณ์นี้ จึงทนไม่ไหวต่อพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ของประธานกรรมการ ผู้ตรวจสอบกิจการ ผู้สอบบัญชี รวมถึงผู้จัดการและเจ้าหน้าที่จึงยื่นหนังสือเพื่อเปิดประชุมใหญ่วิสามัญให้สมาชิกซึ่งเป็นเจ้าของเงิน เจ้าของกิจการ ได้ออกมาร่วมกันแก้ปัญหาใช้สิทธิตามข้อบังคับขับไล่ประธานกรรมการพร้อมพวกยันผู้จัดการที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้สหกรณ์เสียหายจึงขอร้องให้สมาชิกกว่าหมื่นคนออกมารักษาทรัพย์สินของตัวเองเพราะขณะนี้เราไม่ไว้ใจผู้มีส่วนเกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆแล้ว
ส่วนนายจุฬา ศรีบุตตะ ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์หน่วยอำเภอกุฉินารายณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า "ขณะนี้มีสมาชิกจำนวนมากที่ขาดความเชื่อถือเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการของคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์จำกัดชุดที่ 66 ซึ่งเป็นบุคคลหน้าเดิมๆที่หมุนเวียนกันเข้ามาทำหน้าที่โดยไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอในการจัดการสหกรณ์ปล่อยให้พนักงานซึ่งเป็นลูกจ้างกระทำงบการเงินซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมเงินของสหกรณ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทำบัญชีอันเป็นเท็จเสนอต่อที่ประชุมใหญ่มาติดต่อกันกว่า 10 ปีผู้ตรวจสอบกิจการที่สมาชิกเลือกเข้าไปก็ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะตรวจสอบรวมถึงผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่สหกรณ์ทำสัญญาจ้างก็หลับหูหลับตา รับรองงบการเงินเพื่อเอาค่าจ้างเท่านั้นและที่สำคัญผู้จัดการซึ่งเป็นครูบำนาญไม่มีองค์ความรู้เพียงพอที่จะบริหารงานสหกรณ์จึงถูกเจ้าหน้าที่ตบตาโกหกได้อย่างสะดวกฉะนั้นการเปิดประชุมใหญ่วิสามัญของสมาชิกจะพบเอาความขมขื่นรวมกับความคับแค้นที่ถูกโกงแบบซ้ำซากไปขับไล่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำให้สมาชิกและสหกรณ์เสียหายในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก"