'กรมปศุสัตว์' ปูพรมตรวจห้องเย็น สั่งอายัด 'เนื้อเถื่อน' ต่อเนื่อง ล่าสุดเจอบิ๊กล็อตที่ราชบุรี ยึดกว่า 86,200 กิโลกรัม
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี ด่านกักกันสัตว์ราชบุรี อำเภอบางแพ สนธิกำลังกับ สำนักงานประมงจังหวัดราชบุรี และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดราชบุรี เข้าตรวจสอบสถานที่การเก็บซากสัตว์ (ห้องเย็น) ของห้องเย็นพื้นที่ตำบลหัวโพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ตามนโยบายการประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อนของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์
จากการปฏิบัติหน้าที่พบ 'ซากสัตว์' ประกอบด้วย 1.ขาไก่ ตุรกี 31,000 กิโลกรัม 2.ซากสุกร ประเทศบราซิล 3,000 กิโลกรัม 3.ขาไก่กล่อง (cedal Argentina) 3,000 กิโลกรัม 4.ซากโค ประเทศบราซิล (sadia) 2,200 กิโลกรัม 5.ซากสุกรเล็ก (หมูกี่) 3,000 กิโลกรัม 6.เนื้อกระบืออินเดีย (Al-Sami) 4,000 กิโลกรัม 7.ซากชิ้นส่วนสุกร 40,000 กิโลกรัม
น้ำหนักรวมจำนวน 86,200 กิโลกรัม รวมมูลค่า 11,510,000 บาท ซึ่งทั้งหมดไม่มีเอกสารหลักฐานมาแสดงถึงแหล่งที่มาแก่เจ้าหน้าที่
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึด 'อายัดซากสัตว์' ดังกล่าวไว้ตรวจสอบ และให้ผู้ที่เป็นเจ้าของนำเอกสารหลักฐานการครอบครองและที่มาของซากมาแสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำบันทึกอายัดซากไว้ หากไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนในความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ต่อไป
'กรมปศุสัตว์ประกาศสงครามปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายให้สิ้นซาก ไม่ใช่แค่ปศุสัตว์เท่านั้น ยังรวมไปถึงประเภทพืชและสินค้าประมงด้วย ต้องไม่มีการนำเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ปราบปรามอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันโรคระบาดสัตว์ในราชอาณาจักรไทย และยังเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงปกป้องเกษตรกรในประเทศให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่มีการนำสินค้าที่ผิดกฎหมายเข้ามาแทรกแซงกลไกทางการตลาดของไทย' อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว