พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดใช้งานเน็ตประชารัฐเฟสที่ 1 และพบประชาชน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ถือเป็นครั้งแรกที่มา จ.สตูล และไม่รู้ว่าที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรีคนใดเคยมาหรือไม่ วันหน้าก็ขอให้เลือกนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางลงพื้นที่ทุกจังหวัด ไม่ใช่เลือกไปแค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เงินลงไปเพียงพื้นที่เดียว ไม่ทั่วถึง
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า คนกำหนดกติกาโลกวันนี้ คือ ชาติมหาอำนาจ ซึ่งไทยเอาตัวออกไปไม่ได้ แต่ทุกอย่างต้องคำนึงถึงกติกา ส่วนตัวไม่ได้ปฏิเสธว่าระบอบประชาธิปไตยเป็นระบบการปกครองที่ดีที่สุดในโลก แม้จะเข้ามาแบบนี้ ประชาธิปไตยยอมรับในเสียงส่วนใหญ่ก่อนและดูแลเสียงส่วนน้อย ไม่ใช่ดูแลแค่ส่วนเดียว ไม่ทั่วถึง จึงต้องสร้างหลักคิดประชาธิปไตยที่ถูกต้อง มีกติกา กฎหมาย และระเบียบในการบริหารประเทศ ไม่ได้ต้องการบังคับ เพราะกฎหมายเป็นสิ่งที่ทำให้เท่าเทียมกันมากที่สุด เพราะทุกคนถือกฎหมายเดียวกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อให้ทุกอย่างเข้ากระบวนการยุติธรรม แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะไปสั่งว่าใครผิดใครถูก แม้กระทั่งการใช้อำนาจมาตรา 44 ก็ต้องเอาเรื่องเข้าสู่ศูนย์ต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ พิสูจน์ทราบมาว่าใช่หรือไม่ใช่ จึงอย่าให้ใครบิดเบือน ต้องลดปัญหาเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดด้วย ขออย่าคิดแต่ต่อต้านรัฐบาล บางเรื่องอาจมีข้อมูลไม่เพียงพอ ส่วนตัวอยากใช้เวลาที่ยังอยู่ทำความเข้าใจในทุกเรื่อง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในการทำโครงการต่างๆในพื้นที่ ประชาชนต้องบริหารจัดการตนเองร่วมกับการสนับสนุนจากรัฐ ซึ่งในการทำประชาพิจารณ์มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทุกคนต้องรักษาพื้นที่ของตัวเอง การเคลื่อนไหวในพื้นที่ต้องเป็นคนในอย่าให้คนภายนอกพื้นที่มาชี้นำ เช่น ในเรื่องการทำเคเบิลใต้น้ำที่มีบางฝ่ายบอกว่าเป็นการรบกวนปะการัง ชี้แจงว่าเป็นการวางสายในพื้นดินใต้น้ำ ไม่ได้ฝังกลบ รื้อย้ายหรือเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้ และมีการเลือกทำในพื้นที่รบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด จึงขออย่ามองเพียงแง่เดียว รวมถึงเรื่องโครงการท่าเรือปากปารา ท้องถิ่นต้องร่วมหาทางออกให้รัฐบาล ว่าจะทำหรือไม่ทำ เหมือนเช่น โครงการการโรงไฟฟ้า หากไม่เอาแล้วภาระสูงขึ้นจะทำอย่างไร รัฐบาลไม่ต้องการบังคับใคร ต้องอยู่ด้วยความเข้าใจของประชา
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกจัดอับดับให้ดีขึ้นในหลายเรื่อง และหลายอย่างเติบโตขึ้น โดยขอยืนยันไม่เคยทำโพลจัดอันดับเอง แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่เป็นปัญหา คือความขัดแย้งทางการเมือง การบิดเบือน และการให้ร้ายกัน จึงขอให้ทุกคนอย่าสร้างวิกฤติด้วยตัวเอง
นายกฯ ยังได้อ้างถึงการตั้งคำถาม 4 ข้อ ว่า มีผู้มาตอบคำถามกว่า 1 ล้านคน มากกว่าโพลทุกโพล ซึ่งจากที่ได้อ่านมาไม่ได้เขียนเชียร์รัฐบาลอย่างเดียว เขียนติติงก็มี และได้รับมาปรับแก้ทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือคนที่มาเขียนมา แสดงให้เห็นว่าทุกคนเริ่มสนใจการเมือง และประชาธิปไตยที่ถูกต้อง โดยมีหลักสำคัญคือ อยากให้มีความสงบ มีการปฏิรูป และอยากได้รัฐบาลที่มีธรรมมาภิบาล ก่อนออ้นทิ้งท้ายว่า ขอขอบคุณทุกคน อย่าเพิ่งเบื่อกัน ส่วนตัวยังไม่เบื่อใครเลย แต่เบื่อตัวเอง เพราะต้องมาพูด ต้องแก้ปัญหาจำนวนมาก และต้องเตรียมการไปสู่ประชาธิปไตยที่ต้องไม่ทำความเสียหายเช่นเดิมอีก