ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี บริเวรจุดตรวจร่วมน้ำเกิ๊ก ด่านเจดีย์สามองค์ และที่ด่านศุลกากร โดยมีร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
โดย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ได้กล่าวกับข้าราชการทุกหน่วยงานและชาวสวนยางพาราอำเภอสังขละบุรี รวมทั้งผู้ประการับซื้อยางพาราที่มาต้อนรับว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเดินทางมาอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สิ่งที่ทำให้ผมเดินทางมาอำเภอสังขละบุรีในครั้งนี้นั้นสืบเนื่องจากมาตรการของรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีท่านเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งท่านได้มีมาตรการณ์ในการที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงได้รายงานข้อมูลถึงการลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตรทุกประเภทเข้ามาสู่ราชอาณาจักรไทย ทำให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพี่น้องเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นภาคปศุสัตว์ พืชไร่ พืชสวน รวมทั้งภาคประมง
ในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีด่านถาวรอยู่ 1 จุดคือด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี และจุดผ่อนปรนชั่วคราวทางการค้าอีก 1 จุด คือบริเวณด่านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่สำคัญที่มีการลักลอบนำสินค้าภาคการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามายังประเทศไทย ทำให้พี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะพี่น้องชาวสวนยางพาราได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ดังนั้นมาตรการณ์ต่อไปนี้ถือว่าเป็นมาตรการณ์ของรัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรกรในการที่จะจัดตั้งจุดตรวจร่วมแบบบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเราจะเน้นถึงเรื่องสินค้าภาคการเกษตรเป็นหลัก ซึ่งก่อนที่ผมจะเดินทางมาตรงนี้ ผมได้รับข้อมูลในเรื่องของพี่น้องชาวอำเภอสังขละบุรีจากทุกหมู่บ้านว่าในแต่ละหมู่บ้านที่ประกอบอาชีพทำสวนยางพาราว่ามีจำนวนเท่าไหร่ โดยเฉพาะพี่เกษตรกรในหมู่ที่ 9 ต.หนองลู
ซึ่งต่อไปนี้ผมได้ให้นโยบายไปยังผู้บริหารกองการยางแห่งประเทศไทยไปแล้วว่า หากมีความจำเป็นว่าเราจะต้องตั้งจุดรับซื้อยางของพี่น้องชาวอำเภอสังขละบุรีเราก็จะรีบดำเนินการ แต่ในขณะเดียวกันการป้องกันไม่ให้ยางจากประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาซึ่งมันเป็นมาตรการณ์สำคัญ ดังนั้นก็อยากจะฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัด กำกับดูแลอยู่ รวมทั้งหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ และหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเราจะตั้งจุดตรวจร่วมกันช่วยกันเป็นหูเป็นตา อย่าปล่อยให้ยางพาราทะลักจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสู่ราชอาณาจักร เพราะมันทำให้ราคายางในประเทศไทยมันตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งผมมีมาตรการณ์ที่จะทำให้ยางมีราคาที่ดีขึ้นด้วยมาตรการณ์หลายๆอย่าง ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยการยางแห่งประเทศไทย กำลังมีมาตรการณ์ทำอยู่
สิ่งที่ผมกำลังขับเคลื่อนนั้นเป็นนโยบายที่รัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภา ว่าเราจะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในห้วงระยะเวลา 4 ปีที่กำลังจะมาถึงนี้ สิ่งที่ผมกำลังจะไปเปิดตลาดและประสานไปที่ประเทศจีนในกลางเดือนหน้านี้ ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นการเปิดตลาดในเรื่องของยางพาราและพืชผลทางการเกษตรประเภทอื่นๆด้วย ดังนั้นการตลาดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ในยุคนี้การทำเกษตรต้องมีตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับพวกเราเกษตรกรทั้งหลาย
อยากจะฝากไปถึงผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ทั้งหลาย ว่าการมาอำเภอสังขละบุรี ในวันนี้ก็ต้องการมาช่วยพวกท่าน ซึ่งเราไม่ได้มารังแกใคร อย่างการตรวจจับยางพาราในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานั้น ผมได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงอธิบดีกรมวิชาการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นการยางแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ DSI และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ร่วมกันยึดอายัดยางเอาไว้จำนวนหนึ่ง ถามว่านโยบายผมนั้นต้องการกลั่นแกล้งใครหรือไม่ ตอบว่าไม่มี แต่เพียงแค่ขอและให้โอกาสเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นยางพาราของพี่น้องเกษตรกรชาวอำเภอสังขละบุรีและอำเภอใกล้เคียงจริงหรือไม่ ซึ่งเราไม่มีการไปกลั่นแกล้งใครทั้งนั้น แต่ก็ขอฝากไปเตือนพี่น้องที่เคยไปทำอะไรผิดๆมาขอให้เลิก เพราะข้อมูลผมมีหมดแล้ว
โอกาสนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหนึ่งว่า การเดินทางมาอำเภอสังขละบุรีในวันนี้จุดประสงค์เรื่องแรกคือการเปิดจุดตรวจร่วมแบบบูรณาการสินค้าภาคการเกษตร ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าเกษตรที่รับผิดชอบโดยการยางแห่งประเทศไทย รวมทั้งกรมปศุสัตว์ และกรมประมง ซึ่งเป็นจุดตรวจที่เราจะคัดกรองการลักลอบนำเข้าสินค้าภาคการเกษตร ซึ่งวันนี้ได้รับความร่วมมือจากทางจังหวัดกาญจนบุรีโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีและนายอำเภอสังขละบุรีเป็นอย่างดี และเรื่องที่สองคือต้องการมาดูที่ดินทำกินของพี่น้องชาวอำเภอสังขละบุรี ซึ่งส่วนใหญ่ที่ดินจะเป็นเอกสารที่เป็นที่ดินของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน สปก.ที่ดินอุทยานฯหรือที่ดินนิคมสหกรณ์ ซึ่งต่อไปผมจะได้สั่งการไปทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อหารือว่าเราจะมีมาตรการณ์เร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวอำเภอสังขละบุรีอย่างไร
ส่วนกรณีมีการลักลอบนำยางพาราจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น เราไม่มีนโยบายหรืออนุญาตให้นำยางหรือสินค้าภาคการเกษตรประเภทยางพาราเข้าสู่ราชอาณาจักรอยู่แล้ว ดังนั้นการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านต้องสั่งกำชับห้ามกระทำโดยเด็ดขาด ซึ่งมาตรการในการแก้ปัญหาสินค้าเถื่อนเหล่านี้อยู่ในประมวลกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ DSI รวมทั้ง ปปง.และกระทรวงเกษตรได้จับมือกันในสามหน่วยงานในการเข้ามาแก้ไขปัญหาตรงนี้ เพื่อไม่ให้สินค้าการเกษตรประเภทยางพาราทะลักเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามีข้อมูลและก็ได้กล่าวตักเตือนให้ผู้กระทำรีบระบายออกไป จนนำมาสู่การอายัดเอาไว้เพื่อตรวจสอบ นี่คือประเด็นสำคัญที่เดินทางมาในวันนี้ด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาการทะลักเข้ามาในประเทศของยางพาราเป็นจำนวนมหาศาล ส่งผลทำให้ราคายางพาราในประเทศตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งเราต้องการที่จะระบายสินค้ายางพาราของประเทศออกนอกประเทศ ไม่ใช่นำเข้าประเทศนี่คือหนึ่งในเรื่องที่สำคัญ เรื่องที่สองคือเราจะระบายยางพาราภายในประเทศออกให้มากที่สุด ซึ่งผมได้ลงนาม MOU กับกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องการนำยางพาราไปใช้โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม และที่สำคัญเรากำลังจะจัดโซนนิ่งในกากรีตยางเพื่อป้องกันไม่ให้ยางล้นตลาด จะสังเกตเห็นว่ามาตรการณ์ต่างๆที่ผมกำลังทำมาตั้งแต่ที่ผมเข้ามารับหน้าที่จนถึงทุกวันนี้ราคายางพาราเริ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด และมาตรการณ์ต่างที่กำลังจะทำผมเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวสวนยางจะได้ค้าขายยางที่มีราคาดีขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน
ต่อจากนั้นเวลา 12.5 น. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรฯ พร้อมคณะได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปลงยังสนามกีฬาของ อบต.ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค โดยมีนายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 5 เขต และข้าราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงประธานกลุ่มเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี ประชาชนทั้ง 13 อำเภอ ให้การต้อนรับ
โดยการเดินทางไปยังอำเภอไทรโยค ของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เพื่อ มอบเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก. แก่ประชาชนทั้ง 13 อำเภอ จำนวน 110 ราย รวมถึงมอบพันธ์ไม้หลายชนิด พันธุ์ปลาน้ำจืด ให้แก่ประชาชนนำกลับไปปลูกและปล่อยลงในแหล่งน้ำเพื่อให้มีการขยายรวมถึงไว้บริโภค จากนั้นคณะได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล (คทช.) จำนวน 250 ราย และตรวจเยี่ยมชมโครงการเลี้ยงแพะ ของเกษตรกรที่อยู่อาศัยในโครงการที่ดินทำกินชุมชนในพื้นที่ สปก. ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนคณะเดินทางกลับไปยังกรุงเทพมหารนครฯ.
/////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน