เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงเช้านี้เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย /พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ /พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์และพลตำรวจเอกธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยก่อนหารือพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ก่อนเข้าร่วมประชุมว่า มาหารือกับนายกรัฐมนตรีเรื่องนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ส่วนรายละเอียดขอให้รอฟัง
จากนั้นเป็นประธานการหารือแผนบูรณาการการท่องเที่ยว (การเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. ) ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หลังจากนั้นนายเศรษฐา แถลงข่าวร่วมกับนายอนุทิน และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัด ได้แก่ กทม. เชียงใหม่ ชลบุรี และภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดหลักที่จะอนุญาตให้เปิดสถานบริการถึงตี 4 โดยมีเดดไลน์ที่จะปล่อยออกมาคือวันที่ 15 ธันวาคมนี้
ส่วนช่วงเวลาจะเป็นการชั่วคราวก่อน โดยจะไปพิจารณากันว่าระยะเวลากี่เดือนถึงจะเหมาะสม ตรงไหนที่ทำได้เราทำก่อน ส่วนจะมีการเปิดเปลี่ยนโซนนิ่งหรือไม่ในอนาคตเดี๋ยวไปว่ากันในภายหลัง
"ผมเน้นย้ำไปเรื่องที่เราทำเรื่องนี้ไปเพราะกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเดียว ถ้าเราเปิดระยะเวลาได้ยาวขึ้น พี่น้องประชาชนที่ทำในเรื่องการค้าขายเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือสถานบริการอย่างอื่นก็สามารถที่จะเปิดบริการได้มากยิ่งขึ้น" นายเศรษฐากล่าว
"ตรงนี้นัยะสำคัญหลายนัยยะ ยกตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ ไม่ได้ทานข้าวเร็วเหมือนเรา บางคนทานข้าวตั้งแต่ 3 ทุ่ม 4 ทุ่มก็มี ถ้าเกิดสถานบริการเปิดเที่ยงคืนหรือตี 2 เขาก็ต้องเร่งที่จะกินข้าวให้เสร็จเร็ว จำนวนอาหารที่สั่งก็น้อยลง การใช้จ่ายเงินก็จะน้อยลงไป เราไม่เน้นสถานบริการที่เปิดขายสุราเพียงอย่างเดียว เป็นเรื่องของการขยายระยะเวลา" นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐากล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังดูพื้นที่ที่จะทำโซนนิ่งและเรื่องใบอนุญาตต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องการดูแลประชาชน ให้ทำความเข้าใจกับนโยบายนี้ เรื่องเสียงรบกวน เรื่องเมาไม่ขับ ซึ่งได้เน้นย้ำไป การติดตั้งกล้องซีซีทีวีให้มากขึ้น การนำเอกชนมาร่วมมือการให้บริการเรื่องเมาไม่ขับ รวมถึงการตรวจค้นยาเสพติดต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป