ถ้าต้องการให้ราคาข้าวในฤดูใหม่ขึ้นสูง รัฐบาลควรที่จะขายข้าวในราคาปกติไม่ควรขายในราคาข้าวเสื่อม เพราะในข้อเท็จจริงข้าว 13 ล้านตันที่รัฐบาลคิดว่ามีอยู่ในสต๊อกความจริงแล้วมีไม่ถืง30% และตามสัญญาเก็บข้าวและเช่าคลังสินค้าที่พ่อค้าทำกับอคส และอตกพ่อค้าเจ้าของคลังสินค้าต้องรับผิดชอบทั้งปริมาณและคุณภาพของข้าวที่รับฝากเก็บรักษาฉะนั้นตามนิตินัยรัฐบาลไม่มีข้าวเสื่อมในความครอบครองและไม่มีข้าวหายจากคลัง ข้าวที่หายไปและข้าวเสื่อมเป็นความรับผิดของพ่อค้าเจ้าของคลัง เวลารัฐบาลประมูลขายข้าว และถืงเวลาส่งมอบข้าว ถ้าพ่อค้าที่เป็นเจ้าของคลังสินค้าไม่มีข้าวส่งมอบให้พวกเขาจำต้องเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้:
1.ทำการประมูลซื้อข้าวเอง วิธีนี้รัฐบาลก็ได้ราคาตลาดของข้าวดีไม่ต้องขาดทุนในราคาข้าวเสื่อมหรือเอาไปเผาทิ้ง
2.ไปซื้อข้าวจากท้องตลาดมาส่งมอบ วิธีนื้จะทำให้ราคาข้าวในท้องตลาดขึ้นไปมากเพราะเท่ากับรัฐบาลสร้างอุปสงค์เทียมขื้นมา13ล้านตันซึ่งมากกว่าจำนวนข้าวส่งออกทั้งปี ชาวนาก็จะได้อนิสงค์ราคาข้าวเปลือกขึ้นราคามากโดยรัฐบาลไม่ต้องเสียเงินออกไปประกันราคาข้าวเปลือก แต่รัฐมนตรีจะไม่ได้เงินทอน
3. ยอมให้รัฐบาลฟ้องแพ่งและอาญา แล้วหนีออกนอกประเทศ
จึงกราบเรียนมาให้ท่านที่มีอำนาจพิจารณาดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและเพื่อให้ชาวนาได้รายได้เพิ่มจากราคาข้าวเปลือกที่เพิ่มขื้นโดยรัฐบาลไม่ต้องเสียเงินภาษีของผู้เสียภาษี