พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กล่าวถึงการเตรียมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยเฉพาะการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ รวมถึงการอำนวยความสะดวกประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย ได้ร่วมกันดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้อย่างเรียบร้อย และยังคงมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการต่อไปจนจบงานพระราชพิธีฯ
ในเรื่องการซักซ้อมริ้วขบวน การเตรียมงานด้านการจราจร การประชาสัมพันธ์ มาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการจัดเตรียมสถานที่ที่เกี่ยวกับงานพระราชพิธีฯ ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยในทุกเรื่อง เพื่อรองรับประชาชนจำนวนมากที่จะหลั่งไหลเข้าร่วมงานพระราชพิธีฯ
เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้กำชับให้เตรียมการตามแผนงานที่กำหนดไว้ให้รัดกุม มีมาตรการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้เรียบร้อย เพื่อให้การเข้าสู่งานพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งของคนไทย เป็นไปด้วยความสง่างามและสมพระเกียรติ และประชาชนได้มีโอกาสถวายความจงรักภักดีโดยสะดวก นอกจากนี้ ในช่วงหลังงานพระราชพิธีฯ ซึ่งจะมีการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 1-30พฤศจิกายน 2560 นั้น ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการดูแลพื้นที่สนามหลวงและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนไปอย่างต่อเนื่องจนจบกิจกรรมด้วย
การประชุมวันนี้ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำ และฝนตกหนักใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยระบุว่า หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของประชาชน ได้สั่งการให้ทุกส่วนเร่งช่วยกันเข้าคลี่คลายสถานการณ์โดยเฉพาะในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในพื้นที่การเกษตร ซึ่งขณะนี้ กระทรวงมหาดไทย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ รวมถึงกรมชลประทานได้ร่วมกันเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จัดชุดแพทย์เข้าไปดูแลสุขภาพของประชาชน ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือเฉพาะหน้าในเรื่องการขนย้ายสิ่งของ การสัญจร อาหาร การทำคันกั้นน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ ในพื้นที่ กทม. ได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จัดกำลังเข้าเสริมให้กับ กทม. ในสถานีสูบน้ำและจุดระบายน้ำต่างๆ เพื่อให้การระบายน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเสริมกำลังด้านการอำนวยการจราจรในช่วงฝนตกหนัก
อย่างไรก็ตาม จากการเร่งบริหารจัดการน้ำทั้งการพร่องน้ำออกจากลำน้ำ การกระจายน้ำเข้าไปในทุ่งหรือแก้มลิง รวมถึงแผนฉุกเฉินที่รัฐบาลมอบให้แต่ละจังหวัดเร่งดำเนินการในพื้นที่เสี่ยงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในช่วงนี้นั้น จะสามารถรองรับและคลี่คลายสถานการณ์น้ำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด