OR เปิดตัว พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เติมเต็มความสุขให้ทุกคน พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อม เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
เปิดตัว พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 จุดหมายแห่งใหม่ ที่มีสินค้าและบริการ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ด้วยสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มากขึ้น เพื่อเติมเต็มความสุขทุกคนได้มากกว่าเดิม
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พร้อมด้วย นายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน OR เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 (PTT Station Flagship วิภาวดี 62) ซึ่งเป็นต้นแบบสถานีบริการที่จะสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ OR ที่พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อม เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด SDG ในแบบของ OR ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่สร้างส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน ชุมชน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีจัดการสถานีบริการให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายดิษทัต เปิดเผยว่า พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 แห่งนี้ นับเป็นสถานีบริการที่เป็นต้นแบบหรือแฟลกชิป (Flagship) ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ OR ซึ่งผสมผสานแนวคิดการบริการจัดการแบบ SDG ในแบบของ OR ที่มุ่งไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งนำเสนอระบบนิเวศของ OR (OR Ecosystem) ในธุรกิจของ OR และพันธมิตรได้อย่างครบวงจร และยังถือเป็นสถานีบริการต้นแบบสำหรับการออกแบบสู่การขยาย พีทีที สเตชั่น ในอนาคตอีกด้วย
แนวคิดการบริการจัดการตามแนวคิด SDG ตามแบบของ OR ที่ปรากฏในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 แห่งนี้ มีครบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
• “S” หรือ “SMALL” มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก โดยมีร้านไทยเด็ดต้นแบบ ที่สนับสนุนสินค้าชุมชนจากทั่วประเทศ ร้านภัทรพัฒน์ ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิชัยพัฒนา และ “Common Space” หรือพื้นที่เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน
• “D” หรือ “DIVERSIFIED” มุ่งเน้นการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตในทุกรูปแบบผ่านแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ของ OR ที่มีศักยภาพ โดยสถานีบริการแห่งนี้มีร้านค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งในเครือ OR และพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่ อเมซอน เท็กซัส ชิคเก้น พาคามาร่า และโอ้กะจู๋ เป็นต้น
• “G” หรือ “GREEN” มุ่งเน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) โดย OR ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการสถานีบริการแห่งนี้ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้คนชุมชนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันเพื่อเสริมความมุ่งมั่นในเป้าหมายเรื่อง Carbon Neutrality ของ OR ไม่ว่าจะเป็น การใช้พลังงานอย่างยั่งยืนจากการออกแบบอาคารสอดแทรกเข้าไปในพื้นที่ธรรมชาติ ในรูปแบบ Green Station ร่วมกับเทคโนโลยีการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อใช้ภายในสถานีบริการและร้านค้าที่ OR ดำเนินการ พร้อมทั้งได้ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (G-Box) จากกลุ่มบริษัทในเครือ NUOVO PLUS เพื่อจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาการนำเทคโนโลยี AI-CCTV for Customer Carbon ที่สามารถตรวจจับระยะเคลื่อนรถ และยี่ห้อรถ เพื่อคำนวณก๊าซ CO2 ที่เกิดขึ้นของผู้บริโภคที่ภายในสถานีบริการได้
นอกจากนี้ OR ยังสอดแทรกโครงการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ร้านคาเฟ่ อเมซอน ใช้แก้วร้อนที่เป็นเป็น Bio degradable และการนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตเป็นสินค้า (Upcycling Products) ได้แก่ เสื้อและผ้ากันเปื้อนของพนักงาน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งร้าน เป็นต้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คนและชุมชน ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง
นายพิมาน เปิดเผยว่า พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 จะเติมเต็มความสุขให้ทุกคนได้มากกว่าเดิม ด้วยจุดเด่นที่มีสินค้าและบริการหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนอย่างครบครัน บนพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยร้านอาหารแบรนด์ต่าง ๆ และสินค้าบริการเพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นร้าน คาเฟ่ อเมซอน คอนเซ็ปต์ สโตร์ (Café Amazon Concept Store) ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ อเมซอน รูปแบบพิเศษ “Coffee X People” ที่ออกแบบเพื่อการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภคที่มานั่งในร้าน โดยมี Specialty Bar สำหรับผู้สนใจกาแฟ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับครอบครัว และพื้นที่ Co-Working Space รวมทั้งมีเมนูพิเศษที่มีเฉพาะที่สาขานี้เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าแบรนด์ใหม่ ๆ พร้อมเมนูพิเศษให้เลือกหลากหลาย เช่น ร้านกาแฟพาคามาร่า (Pacamara) ซึ่งเป็นสาขาแรกที่เปิดให้บริการในสถานีบริการ และเป็นสาขาแรกที่เสิร์ฟเมนูอาหารและเบเกอรี่ รวมไปถึง ร้านโอ้กะจู๋ ซึ่งเป็นสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ 2 ชั้น รองรับลูกค้าได้กว่า 180 คน พร้อมให้บริการทั้งแบบ Drive Thru, Dine-In, Takeaway และ Delivery และยังมีเมนูพิเศษที่มากกว่าสาขาอื่น อีกด้วย
นอกจากนี้ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 ยังเน้นเรื่องการให้บริการน้ำมันและพลังงาน ซึ่งเป็นความโดดเด่นของ พีทีที สเตชั่น มาโดยตลอด ตอบโจทย์การใช้พลังงานทุกรูปแบบ เพื่อรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพที่มีให้บริการอย่างครบครัน ทั้งเกรดพรีเมียม (Super Power) และเกรดมาตรฐาน (Xtra Save) และจุดชาร์จ EV Centralized Charger ที่สามารถให้บริการได้ 6 หัวชาร์จพร้อมกัน รองรับการชาร์จไฟสูงสุด 180 Kw อีกทั้งยังมีโชว์รูมรถ BYD ตามแนวโน้มความต้องการรถไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
OR มีความตั้งใจให้ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่จะเติมเต็มความสุขให้ทุกคนได้มากกว่าเดิม เพื่อตอกย้ำแนวคิด “Living Community” ที่ต้องการให้สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เป็นศูนย์กลางในการเติมเต็มทุกความสุขและเติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างยั่งยืน และ OR จะยังคงมุ่งมั่นการพัฒนาต้นแบบสถานีบริการรูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความทุกความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้ พีทีที สเตชั่น เป็นสถานีที่เติมเต็มความสุขให้ทุกคนตลอดไป
ทั้งนี้ในช่วงเดือนธันวาคม 2566 สำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการนี้ ร้านค้าใน พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 มีโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ มากมายเพื่อต้อนรับผู้ที่มาเข้าใช้บริการทุกท่าน