จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอความร่วมมือ งดเผาอ้อย งดเผาตอซังข้าว ลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ขณะที่ ชาวบ้านยอมรับได้รับความเดือดร้อนจากเศษฝุ่นใบอ้อยถูกเผาปลิวตกลงมา ของชาวไร่อ้อย พื้นที่ อ.นามน ไม่สน ไม่แคร์ เมื่อถึงเวลาขาย ทำง่ายๆคือเผา เพื่อลดต้นทุนค่าจ้างเก็บเกี่ยว
(12 ม.ค.) ตามที่แฟนเพจของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ (พมจ.กาฬสินธุ์) ได้โพสต์ ข้อความ และรูปภาพ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือ งดเผาในที่โล่ง งดเผาอ้อย งดเผาตอซังข้าว งดเผาป่า งดเผาบริเวรสองฝั่งทาง เพื่อลดและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจนาดเล็ก PM2.5 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมานั้น
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจหลังแฟนเพจของสำนักงาน พมจ.กาฬสินธุ์ ได้ประชาสัมพันธ์ออกไป พบว่าชาวนาในพื้นที่ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ มีการเผาตอซังข้าว จุดเผาอยู่ห่างจากปั้มน้ำมัน ปตท. ถนนถีนานนท์ ประมาณ 200 เมตร
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการจุดไฟเผาอ้อย ในพื้นที่ อ.นามน หลายตำบล ชาวไร่อ้อยส่วนมากยังเลือกคงวิธีเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยการเผาใบอ้อยให้เหลือเพียงลำต้น ซึ่งง่าย-เร็ว และลดต้นทุนในการเก็บเกี่ยว ไม่สนใจในผลกระทบที่จะตามมาต่อสะภาพแวดล้อม
ไม่แคร์ถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนรอบข้าง และสังคมโดยรวม โนสน โนแคร์
นายอุทัย อุดมสัย อายุ 72 ปี เจ้าของไร่อ้อย ในพื้นที่ ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ปลูกอ้อยปีละ 50 ไร่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบันเลือกเก็บเกี่ยวผลผลิตแบบสดๆโดยไม่เผา ซึ่งอาจจะเก็บเกี่ยวได้ช้ากว่าการเผาใบ แต่ก็เป็นการดีที่มีส่วนไม่ทำให้เกิดมลพิษ ที่สำคัญตัดอ้อยสด เมื่อไปส่งโรงงานก็จะได้ราคาดี ต่างจากอ้อยเผาตันละ 100 บาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางสาวกัลทิมา ราโช อายุ 34 ปี ผู้ประกอบการค้าขายในพื้นที่ ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเศษใบอ้อยที่เผาปลิวหล่นลงมา ซึ่งขณะนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. กำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อเย็นที่ม้าหินอ่อนอยู่หน้าร้าน พบว่ามีเศษใบอ้อยสีเทา-ดำ ปลิวตกลงมาที่จาน-ชามใส่อาหารและข้าว จนรับประทานไม่ได้เลย และเศษใบอ้อยดำๆจากการเผา ยังปลิวตกมาเต็มหน้าร้านอีกด้วย
เช่นเดียวกันนางสาวนงนภัส กั้วพิศมัย อายุ 40 ปี ผู้ประกอบการร้านหม่าล่า-ลูกชิ้นย่าง ทางเข้าด้านหลัง มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบจากเศษฝุ่นละอองจากการเผาใบอ้อยเช่นกัน โดยเศษฝุ่นดำๆปลิวลงมาตกใส่ถาดลูกชิ้นสดที่ตั้งโชว์ลูกค้าที่หน้าร้าน
คิวสัมภาษณ์ 1.นายอุทัย อุดมสัย อายุ 72 ปี เจ้าของไร่อ้อย (สวมเสื้อยึดแขนยาวสีกลมท่า คอปกสีชมพู)
2.นางสาวกัลทิมา ราโช อายุ 34 ปี ผู้ประกอบการค้าขาย (สวมเสื้อคอปกแขนสั้นสีชมพู)
3.นางสาวนงนภัส กั้วพิศมัย อายุ 40 ปี (ชื่ออ่านออกเสียงว่า นง-นะ-พัด) ผู้ประกอบการร้านหม่าล่า-ลูกชิ้นย่าง (สวมเสื้อยึดแขนยาวสีครีม สวมผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงิน)