นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า พรรคการเมืองซึ่งมีหน้าที่เสนอตัวทำงานในระดับท้องถิ่น จะสามารถเคลื่อนไหวได้หรือไม่ รวมถึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายท้องถิ่นให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญ และควรสะสางกรณีใช้อำนาจตามมาตรา 44 กับผู้บริหารท้องถิ่นหลายพื้นที่ ต้องมีความชัดเจน เพราะบางพื้นที่ยังไม่มีโอกาสรับทราบข้อกล่าวหา และบางพื้นที่ที่ตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดก็ยังไม่ปลดออกจากคำสั่งนี้ และเห็นว่ารัฐบาลควรหารือกับ กกต. ให้ดี เพราะภาระของกกต. ที่ต้องดูแลพรรคการเมือง และการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ยังมีภาระเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งประเทศเข้าไปอีก จึงต้องจัดลำดับความสำคัญให้ดี

นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า ไม่ได้เรียกร้องต้องปลดล็อคพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่จะเกิดคำถามกรณีผู้สมัครที่อิงพรรคการเมืองหรือมีนักการเมืองสนับสนุน จะมีปัญหาเกี่ยวกับการจำกัดการเคลื่อนไหว รวมถึงควรจะมีความชัดเจนจาดศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับอำนาจของ กกต. ในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งเรื่องเหล่านี้ รัฐบาลควรหารือกับ กกต. ไม่ควรตัดสินใจฝ่ายเดียว

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงเงื่องไขที่ให้พรรคการเมือง การแจ้งฐานสมาชิกต่อ กกต.ภายใน 90 วันหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งพรรคพยายามนำฐานข้อมูล 3 ส่วน คือ ทะเบียนราษฎร์ ฐานข้อมูล กกต. และฐานข้อมูลของพรรคการเมืองมาทาบเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง โดยไม่ต้องเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ตอนนี้ทั้ง กกต. และทะเบียนราษฎร์ แจ้งว่ายังไม่สามารถส่งข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ได้ และกกต.ตอบกลับมาว่า พรรคต้องกลับไปหาสมาชิกที่มีข้อมูลตรงด้วยตัวเอง ซึ่งทำไม่ได้เพราะขัดคำสั่งคสช. ในขณะที่ระยะเวลาก็บีบรัดเข้ามาเรื่อยๆ แต่เข้าใจว่า กกต.จะมีความชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เพราะจะมีการนัดประชุมร่วมกับทางทะเบียนราษฎร์ในช่วงสิ้นเดือนนี้