รมว..กลาโหม ลงพื้นที่รับฟังปัญหาข้อพิพาทที่ดินของรัฐ สวนป่านาจารย์ อ้างเอกสารสิทธิทำกิน หลัง คทช.มอบสิทธิทำกินให้กับเครือข่ายสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน กว่า 900 ไร่ เชื่อการนำรูปแบบ คทช.มาใช้เป็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทได้ถูกทาง

      วันที่ 13 มาราคม 2567 เวลา 13.00 น. ที่หอประชุมเทศบาลตำบลนาจารย์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปร่วมประชุมหารือการพัฒนา"โครงการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน" ของเครือข่ายสมัชชาเกษตรกรภาคอีสานที่ได้รับมอบที่ดินทำกินจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จำนวน 900 ไร่ ภายใต้การดูแลของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ

       สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 เครือข่ายสมัชชาเกษตรอีสานได้รับมอบที่ดินทำกินจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) กรมป่าไม้ และจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 900 ไร่ หลังจากที่ได้มีการเรียกร้องให้มีการพิสูจน์สิทธิ์เพื่อเข้าทำกินตั้งแต่ปี 2536 โดยเกษตรกรสมาชิกเครือข่ายสมัชชาเกษตรกรภาคอีสานผู้ได้รับสิทธิ์ จำนวน 34 ราย ได้เสียสละพื้นที่เป็นแปลงรวมจำนวน 200 ไร่ เพื่อสร้างชุมชนต้นแบบตามแนวพระราชดำริ 2 โครงการ 1. โครงการปลูกป่าสาธิตตวนเกษตร และ 2. โครงการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน

     นางสาวปฐมาภรณ์ มงคลสินธุ์ ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ปัญหาที่เครือข่ายสมัชชาเกษตรกรภาคอีสานพบหลังจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ได้มอบสมุดเล่มเขียว ซึ่งเป็นเอกสารที่รัฐมอบที่ทำกินให้อย่างถูกต้อง ตามนโยบายรัฐบาลในลักษะแปลงใหญ่ แต่ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เพราะยังมีผู้ที่อ้างสิทธิทำกิน และยังทำการเกษตร โดยอ้างเอกสิทธิครอบครอง ที่ได้จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

      ด้าน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า "จังหวัดกาฬสินธุ์ดำเนินการได้ดีหลายอย่าง ทั้งวิธีการแก้ปัญหาเรื่องข้อพิพาทที่ดินระหว่างรัฐกับประชาชน และรูปแบบในการพัฒนา เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนของจังหวัด รวมถึงการทำงานร่วมกันภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะองค์กรเอกชนที่เป็นสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน แล้วก็ได้เห็นการแก้ปัญหาสวนป่านาจารย์ ที่เป็นข้อพิพาทมานาน ซึ่งในที่สุดก็ใช้รูปแบบของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) คือให้ชาวบ้านใช้สิทธิ์ทำกินได้ ซึ่งนี่ก็คือหนึ่งรูปแบบที่น่านำไปใช้กลับหลายปัญหาในประเทศ เนื่องจากช่วยยุติปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชนได้ และในฐานะประธาน One Map ก็มองว่า.จังหวัดกาฬสินธุ์ใช้รูปแบบที่เรียกได้ว่า เดินมาถูกทาง การใช้ One Map โดยรัฐบาลเดินหน้าให้มีแผนที่แบบเดียวกันจะทำให้พิสูจน์ได้ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของกรมไหน และการพิสูจน์สิทธิโดยประชาชนก็จะง่ายขึ้น"

     (แฟ้มภาพ) ขณะที่ นางพิกุล ทรัพย์เสริม เป็นบุตรสาวของ นายสมบูรณ์ ทรัพย์เสริม ซึ่งมี แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 ได้เคยให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวระหว่างที่มีข้อพิพาทกัน เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2566 ว่า ที่ดินแห่งนี้ บิดาของตน คือนายสมบูรณ์ ได้รับการแบ่งปันเป็นมรดกมาจาก นายสิม ทรัพย์สมบูรณ์ จำนวน 16 ไร่ ซึ่งมีการครอบครองทำกินมานานหลาย 10 ปี และยังมีเอกสารสิทธิถูกต้อง จะกล่าวหาว่าตนเป็นคนบุกรุกได้อย่างไร หากว่าตนเองเป็นคนบุกรุกจริง ให้นำหนังสือเพิกถอนเอกสารสิทธิมาให้ดู และหากเป็นเอกสารสิทธิของจริงที่ออกจากทางราชการ ตนพร้อมจะออกจากที่ดินแห่งนี้

    คิวสัมภาษณ์1.นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม, 2. นางสาวปฐมาภรณ์ มงคลสินธุ์ ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดกาฬสินธุ์ (สวมเสื้อเสื้อคลุมสีดำ ทับเสื้อยึดสีขาว)  3.นางพิกุล ทรัพย์เสริม (แฟ้มภาพ สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวทับเสื้อคอยึดสีชมพูด้านใน)