นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวชุมชนซอยงามวงศ์วาน 59 เขตจตุจักรว่า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ได้ร่วมมือกับสำนักงานเขตจตุจักร และกรมธนารักษ์ ได้เข้ามาโค่นต้นไม้ใหญ่ขนาด 2 คนโอบไปหลายสิบต้น รวมทั้งจะทุบรื้อถนนซึ่งเป็นทางสาธารณะประโยชน์ที่ใช้เงินภาษีประชาชนสร้าง เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวไปประเคนให้ชุมชนบุกรุกริมคลองข้างวัดเทวสุนทรซึ่งอยู่ท้ายสุดของซอยได้มาสร้างเป็นที่อยู่อาศัย ที่เรียกว่าบ้านมั่นคงอย่างผิดกฎหมาย โดยขยับมาสร้างบริเวณปากซอยซึ่งเดิมเป็นสวนสาธารณะของชาวชุมชนในซอยงามวงศ์วาน 59 ทั้งซอย
ทั้งนี้ ซอยดังกล่าวเดิมเป็นถนนสาธารณะ และสวนสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันมากว่า 80 ปี มีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ 21 ตรว.แต่ทราบมาว่ากรมธนารักษ์ได้นำไปให้สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเช่าในราคาถูกเพื่อสร้างบ้านพักอาศัยแล้ว โดยขณะนี้กรมธนารักษ์ได้นำป้ายมาปักบริเวณสวนหย่อมที่ชาวบ้านร่วมกันพัฒนาขึ้นมาว่า “ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้ามาใช้ประโยชน์ หรือทำให้ทรัพย์สินเสื่อมเสีย เสียหาย หากผู้ใดฝ่าฝืน จะดำเนินคดีตามกฎหมาย” ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน/ชุมชนมาอย่างยาวนานแล้วก็ตาม
นอกจากนั้น เชื่อว่ามีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ เนื่องจากชุมชนข้างวัดเทวสุนทรนั้นมีเพียง 48 หลังคาเรือน แต่แผนการสร้างบ้านมั่นคงในซอยงามวงศ์วาน 59 กลับจะมีการก่อสร้างบ้านมั่นคงมากกว่า 100 หลังคาเรือน โดยอ้างให้ครอบครัวขยาย บางครอบครัวอ้างจะได้สิทธิ์มากถึง 7 หลัง ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะนำไปปล่อยเช่าเกรงกำไร เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง และสีน้ำตาล แต่กลับนำเงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนในการสร้างให้แต่ละหลังหลายแสนบาท แถมยังทำลายต้นไม้ใหญ่ ทำลายถนนทิ้ง เช่นนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง
“เรื่องเยี่ยงนี้หากปล่อยไปจะกลายเป็นบรรทัดฐาน ที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ของข้าราชการ นักการเมือง และแกนนำชุมชนบางคนได้ องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจะนำชาวงามวงศ์วาน 59 บุกไปพบ รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมฯในวันจันทร์ที่ 22 ม.ค.67 เวลา 10.00 น. ณ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ถนนกรุงเกษม เขตป้อมปราบฯ เพื่อขอให้สั่งระงับและทบทวนแผนการสร้างโครงการฯดังกล่าว และให้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบบ้านมั่นคงทั้งกรุงเทพมหานครว่า มีการนำบ้านมั่นคงไปปล่อยเช่าแสวงหาผลประโยชน์กันหรือไม่ อย่างไร หากพบต้องสั่งให้ พอช.ยึดคืนมาให้กับคนที่ยากจนจริงๆได้อยู่อาศัยต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าว