จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ ปุ้ย ไผ่สมจิตร ได้โพสต์ลงในกลุ่มคนเมืองกาญจน์2(รีเทิร์น) มีข้อความว่า ฝากแชร์หน่อยครับ! จับตัวคนร้ายไม่ได้ วันที่12/1 (ไปแจ้งความไว้แล้ว) (ของประมาณ2คันรถ) โดนขโมยของในโกดังไป มูลค่าเกิบ แสนบาท โจน ไม่กลัวเกรง ขโมย รอบ2 วันที่ 20-21/1 อีกรอบ และรอบนี้เอาเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะไม้ ทั้งหมด 8 ตัว รอบนี้มูลค่าประมาณ แสนสาม หมื่นบาท แต่ที่หน้ากลัวคือ ผมรวบรวม ของที่ยังเหลืออยู่ แล้วตาม ร้อยเวร ไปที่โรงพัก ไปประมาณ 1 ชั่วโมง (เวลา 2 ทุ่ม - 3ทุ่ม) กับมาของที่รวมไว้หายอีก ผมโทรแจ้งร้อยเวร ร้อยเวรบอกให้ผมไปแจ้งครั้งที่3แต่ผมไม่ไปแล้ว! เก็บของที่เหลือกลับบ้าน (ผมเช้าโกดังขายทุเรียน ผมคนทองผาภูมิ) เช้ามาเขาโทรมาแจ้งว่า มาขโมยรอบที่ 4 หลังผมกลับมาแล้ว!ประมาณ 5 ทุ่ม (โจรกลุ่มนี้อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 5-8 คน ครับ) ผมยอมแล้วครับอยู่ยากจริงๆเมืองกาญจน์ คนหาเช้ากินค่ำ #อยากให้จับตัวคนร้ายได้ #คนเมืองกาญ #มีหน่วยงานนัยพอช่วยผมได้บ้างครับ #ผมอยากได้ของ ของผมคืน #โจรเมืองกาญ ไม่กลัว กฎหมาย #ฝากหน่วยงานที่เกลียวข้องด้วยครับ ข้อมูลเพิ่มโทรหาผมครับ 0812838357 ต้น ครับ
หลังจากพบเห็นในโซเชียส ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับ นายสมยศ พ่วงสมจิตร อายุ 37 ปี เจ้าของโกดังทุเรียนทองผาภูมิสวนไผ่สมจิตร ตั้งอยู่เลขที่ 125/2 หมู่ที่ 1 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมพาสื่อเดินชี้จุดภายในโกดัง แล้วก็เปิดเผยอย่างละเอียดว่า เหตุเกิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 และก็ได้ไปแจ้งความไว้แล้วซึ่ง ระยะเวลาห่างประมาณอาทิตย์กว่าๆ ก็เกิดเหตุครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2567 แล้ววันนั้นร้อยเวรก็ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และได้ตามร้อยเวรไปที่โรงพักโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พอกลับมาก็มาพบว่าเกิดเหตุซ้ำซ้อนครั้งที่ 3 และตนก็ได้รีบโทรหาร้อยเวร
ซึ่งร้อยเวรก็บอกว่าให้มาแจ้งความเพิ่มแต่ตนเองไม่ได้ไปและได้กลับบ้านที่อำเภอทองผาภูมิ ตอน 22:00 น. และช่วงเช้าคนดูแลโกดังที่เช่าอยู่ได้มาตรวจสอบและพบว่าช่วงระยะเวลาประมาณ 22.00น. ถึง 07:00 น. ก็เกิดเหตุครั้งที่ 4 ครั้งนี้ได้ขโมยของด้านหลังโกดังเพิ่มเติมไปอีก รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 2 แสนกว่าบาท ก็อยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ลำบากจริงๆ ทำกินยากจริงๆ ตอนนี้ ส่วนตัวก็ไม่แน่ใจนะว่าจะสงสัยใครเป็นพิเศษแต่ก่อนหน้านี้เคยมีขโมย ได้เข้ามาขโมยลูกทุเรียนหน้าร้านที่ตั้งเต็นท์ขายช่วงตี 4 แล้วทางผมก็ได้จับกุมตัวไว้ได้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มานำตัวคนร้ายไปช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ส่วนตัวคิดว่าโจรน่าจะมากันมากกว่า 5-6 คนเพราะว่าของที่เอาไปส่วนใหญ่ก็มีน้ำหนักขนย้ายก็ลำบาก ให้ขนย้ายจริงๆ วันเดียวก็น่าจะไม่เสร็จ ก็ขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยจับกุมคนร้ายให้ได้ในเร็วที่สุดนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับทรัพย์สินที่ให้สูญหายครั้งแรก ได้แก่ 1.เครื่องปรับอากาศ (แอร์) ยี่ห้อ มิซูบีซี จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 38,000 บาท , 2.ตู้แชไอติม จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 12,000 บาท , 3.พัดลม ขนาด 18 นิ้ว ยี่ห้อ ยาตาริ จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 1,200 บาท , 4.ตะกรัาพลาสติก จำนวน 20 ใบ ราคาประมาณ 3,000 บาท , 5.สายไฟ ยาวประมาณ 30 เมตร ราคาประมาณ 2,000 บาท , 6.หลอดไฟ จำนวน 8 ดวง ราคาประมาณ 2,000 บาท , 7.กิโลติจิทอส จำนวน 8 ตัว ราคาประมาณ 9,600 บาท , 8.ก้าฮี้ไม้ จำนวน 1 ตัว ราคาประมาณ 1,200 บาท , 9.อุปกรณ์ขายทุเรียน จำนวน 1 ชุด ราคาประมาณ 20,000 บาท , 10.หญ้าเทียม จำนวน 1 ม้วน ราคาประมาณ 4,500 บาท รวมราคา 93,500 บาท ส่วนครั้งที่ 2 ได้แก่ 1.โต๊ะไม้ประดู่ 2 ชุด ราคาประมาณ 20,000 บาท 2.โต๊ะเหล็ก 6 ตัว ราคาประมาณ 30,000 บาท 3.เหล็กราวบันด ราคาประมาณ 10,000 บาท 4.ชุดสายไฟโกดัง ราคาประมาณ 30,000 บาท 5.หลังคาเมทัสชีส ราคาประมาณ 20,000 บาท 6.ประตูห้องน้ำ ราคาประมาณ 1,000 บาท 7.ที่นอง 6 ฟุต ราคาประมาณ 25,000 บาท 8.ตะแกงเหล็ก ราคาประมาณ 1,000 บาท
//////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน