คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงกังวลต่อกรณีการเข้าสลายการชุมนุมและจับกุมแกนนำ “เครือข่ายประชาชนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน” ระหว่างจัดกิจกรรมเดินเท้ารณรงค์คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเทพา เพื่อเข้ายื่นหนังสือคัดค้าน โครงการฯ ต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อเย็นวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างสันติวิธี โดยเคารพและยึดมั่นต่อหลักสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าเทพา เป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลัก ซึ่งมีข้อท้วงติงว่าอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอย่างรุนแรง ซึ่ง กสม. ได้ดำเนินการตรวจสอบและอยู่ระหว่างการจัดทำรายงาน โดยเบื้องต้นพบปัญหาการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร การจัดกระบวนการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง อันเป็นเหตุของการเดินเท้าเพื่อเข้ายื่นหนังสือคัดค้านโครงการฯ ต่อนายกรัฐมนตรี
ในชั้นนี้ กสม. เห็นว่าการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวยังอยู่ในขอบเขตของการใช้สิทธิในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนอย่างสงบตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตาม
กสม. จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนการแจ้งข้อกล่าวหา แก่นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และดำเนินการทางกฎหมายอย่างรอบคอบบนพื้นฐานของสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และเปิดโอกาสให้เครือข่ายฯ ได้เข้าพบ เพื่อนำเสนอข้อห่วงใยและข้อเสนอในการพัฒนาโครงการที่ยั่งยืนต่อรัฐบาลโดยสงบและปราศจากการขัดขวาง
ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานเจ้าของโครงการยึดมั่นในแนวปฏิบัติของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ภายใต้หลักการ เคารพ คุ้มครอง และเยียวยา รวมทั้งคำประกาศวาระแห่งชาติ : สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป