นายประสงค์ คุ้มประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า หลังจากที่ กฟน. ได้ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำสายสื่อสารลงใต้ดิน โดยล่าสุดได้ดำเนินโครงการบนถนนพหลโยธิน พญาไท และสุขุมวิท ทำให้มีการรื้อถอนเสาไฟฟ้า และดำเนินการส่งมอบให้กับ กทม. แล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,344 ต้น เพื่อใช้สนับสนุนการดำเนินโครงการปลูกป่าในใจคนตามศาสตร์พระราชาของกรุงเทพมหานคร ในการสร้างแนวป้องกันคลื่นช่วยฟื้นฟูและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน เป็นระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร
สำหรับวิธีการป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งทะเลที่ผ่านมาใช้การปักด้วยไม้ไผ่ทำให้ย่อยสลายได้ง่าย จึงมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี ขณะที่การใช้เสาไฟฟ้าของ กฟน. ซึ่งเป็นแท่งคอนกรีตนั้นจะมีอายุการใช้งานนานประมาณ 30 ปี อีกทั้ง ยังมีความแข็งแรงทนทาน และมีความยืดหยุ่นจากโครงสร้างลวดเหล็กภายในเสาไฟฟ้า ทำให้สามารถรับแรงดัดได้มากถึง 4.5 ตันเมตร หรือหักโค้งได้ประมาณ 7-8 เซนติเมตร โดยจะดำเนินการด้วยวิธีปักเสาเป็นแนว 4 แถว มีระยะห่างระหว่างเสาและแถวประมาณ 70 ซม. คิดเป็นจำนวนเสาไฟฟ้าที่ใช้ประมาณ 3,600 ต้น ต่อความยาว 1 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กฟน. ได้มอบเสาไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วให้กับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่ขอความร่วมมือนำไปใช้งานเพื่อชุมชนและสังคม เช่น จังหวัดสมุทรปราการ ได้นำไปใช้ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ รวมถึงยังมีหน่วยงานชุมชนในพื้นที่ให้บริการของ กฟน. ต่างๆ ขอนำเสาไฟฟ้าไปใช้ทำฝายชะลอน้ำ สะพานข้ามคลองในชุมชน อีกด้วย อย่างไรก็ตาม กฟน. มีการดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินอีกรวมระยะทาง 214.6 กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่ง กฟน. ยังคงมีโครงการมอบเสาไฟฟ้าที่รื้อถอนให้กับ กทม. ใช้ป้องกันปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยฟื้นฟูและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ลดผลกระทบที่อาจเกิดกับประชาชนริมชายฝั่งเป็นจำนวนมากทำให้เสาไฟฟ้าที่รื้อถอนไม่ใช้งานแล้วในโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินสร้างมหานครไร้สาย Smart Metro ของ กฟน. ไม่สูญเปล่าใช้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนได้ต่อไป