นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสากรรม พร้อมด้วย นายเอกภัทร วังสุวรรณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เข้าตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) โดยมีนายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย คณะกรรมการฯ คณะผู้บริหาร และพนักงาน SME D Bank ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมแก้ววิเชียร ชั้น 11 SME D Bank
รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย ว่า วันนี้ได้มารับฟังการปฏิบัติงานของ SME D Bank ที่กำลังจะออกผลิตภัณฑ์สินเชื่ออีกหลายชนิด ซึ่งได้สั่งการให้คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก อาทิ เการปล่อยคาร์บอน นอกจากนี้ยังหารือการขยายวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางจาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท ทั้งนี้ SME D Bank เดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME กลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง โดยให้บริการด้านสินเชื่อควบคู่กับการพัฒนาผู้ประกอบการ พร้อมเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรภายในและภายนอกของกระทรวงอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ พิมพ์ภัทรา แนะให้ SME D Bank นำแนวทาง “รื้อ-ลด-ปลด-สร้าง” มายกระดับขั้นตอนการทำงาน สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของ SME พร้อมกับสร้างสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุน SME เช่น การพัฒนาศูนย์ One Stop Service สำหรับให้บริการกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทุกกระบวนการ และมุ่งสู่การเป็น Digital Banking โดยสมบูรณ์ นอกจากนี้จะต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูล Data Warehouse และระบบ Core Banking System (CBS) ที่ธนาคารพัฒนาขึ้น เพื่อนำไปวิเคราะห์ วิจัย และประมวลผลให้ได้ข้อมูลเชิงลึก (SME Insight) สำหรับกำหนดเป็นนโยบายสนับสนุน SME ต่อไป
นอกจากนั้น SME D Bank ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ จะต้องวางภาพลักษณ์องค์กรเป็น professional Banking มีวัฒนธรรมการทำงานที่โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นมืออาชีพ ซึ่งตนมั่นใจในศักยภาพของ SME D Bank และยินดีที่จะสนับสนุนการดำเนินงานในทุกมิติ เพื่อให้ SME D Bank เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สามารถช่วยเหลือและเพิ่มศักยภาพแก่ SME ไทย ที่จะสร้างประโยชน์ ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ ประชาชนมีรายได้ คุณภาพชีวิตดีขึ้น ส่งต่อประโยชน์ไปยังทุกภาคส่วน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้ประเทศไทยเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
