ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สั่งการ 234 สาขาทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้ง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด กักเก็บน้ำดิบให้เพียงพอ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากและพื้นที่เสี่ยงน้ำเค็มรุก ไม่ให้กระทบต่อการให้บริการน้ำประปา พร้อมขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า

นายจักรพงศ์ คำจันทร์ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 2) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า ภัยแล้งปีนี้มีแนวโน้มที่จะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่ส่งผลให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นและฝนอาจจะทิ้งช่วงยาวนาน จึงได้สั่งการให้ กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ เตรียมการรับมือตามมาตรการรองรับฤดูแล้งอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในพื้นที่แล้งซ้ำซาก สำหรับด้านปริมาณน้ำเพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำดิบ
ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เร่งกักเก็บน้ำดิบและประสานงานกับหน่วยงานในท้องถิ่นเพื่อขอจัดสรรน้ำให้เพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปา สร้างฝายทดน้ำในลำน้ำ ตลอดจนจัดเตรียมกำลังคน รถยนต์บรรทุกน้ำ พร้อมตรวจสอบสภาพเครื่องสูบน้ำ และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานได้ ทั้งนี้ กปภ. พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง โดยการแจกจ่ายน้ำดื่มบรรจุขวดตราสัญลักษณ์ กปภ. และนำรถยนต์บรรทุกน้ำประปาออกไปแจกจ่าย รวมทั้ง จ่ายน้ำประปาให้แก่รถบรรทุกน้ำของส่วนราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อรับน้ำประปาไปแจกจ่ายโดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งต้องมีหนังสือแจ้งขอรับน้ำประปา พร้อมระบุหมายเลขทะเบียนรถที่มาบรรทุกน้ำ ป้องกันการฉวยโอกาสนำน้ำประปาไปจำหน่าย ด้านคุณภาพน้ำ ในช่วงฤดูแล้ง ปริมาณน้ำดิบในแหล่งน้ำเหลือน้อย คุณภาพน้ำดิบเสื่อมโทรมลง ประกอบบางสาขาอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้แหล่งน้ำดิบ
มีค่าความเค็ม (ค่าคลอไรด์) สูงขึ้น ได้กำชับให้ กปภ.สาขา เฝ้าระวังคุณภาพน้ำดิบและเก็บตัวอย่างน้ำดิบนำไปทดสอบเพื่อควบคุมคุณภาพน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ปลอดภัยต่อสุขอนามัยของประชาชน

รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า ปัจจุบัน กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ ยังสามารถจ่ายน้ำให้บริการประชาชนได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า เพื่อให้มีน้ำสะอาดไว้ใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้ง หากประชาชนพบเห็นท่อแตกท่อรั่วหรือประสบภัยแล้งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค สามารถติดต่อได้ที่ กปภ.สาขาในพื้นที่ที่ใช้บริการ PWA LINE OA: @pwathailand และ PWA Contact Center 1662 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป