นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่าวันนี้ ที่ห้องประชุม 701 - 703 อาคารสำนักงานศาลยุติธรรม ชั้น 7 ถนนรัชดาภิเษก สำนักงานศาลยุติธรรมได้ดำเนินการตรวจนับคะแนนเลือกกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.ต.) ได้แก่ชั้นศาลฎีกา จำนวน 6 ตำแหน่ง ชั้นศาลชั้นอุทธรณ์ จำนวน 4 ตำแหน่ง และชั้นศาลชั้นต้น จำนวน 2 ตำแหน่ง ตามมาตรา 36(2) (ก) (ข) และ (ค)แห่ง พรบ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543
โดยคณะอนุกรรมการตรวจนับคะแนนเลือก ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ตรวจนับบัตรลงคะแนน ปรากฏผลผู้ได้รับการเลือกเป็น ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ ดังนี้
ประเภท ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิชั้นศาลฎีกา จำนวน 6 คน ได้แก่
1. นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ได้ 144 คะแนนประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา
2. นายรุ่งศักดิ์ วงศ์กระสัน ได้ 132 คะแนนผู้พิพากษาศาลฎีกา
3. นายปุณณะ จงนิมิตสถาพร ได้ 127 คะแนน ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
4. นายฉัตรชัย ไทรโชต ได้ 127 คะแนนผู้พิพากษาศาลฎีกา
5. นายธนิต รัตนะผล ได้ 121 คะแนน รองประธานศาลฎีกา
6.นางมัณทรี อุชชิน ได้ 118 คะแนน ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา
ประเภท ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิชั้นศาลอุทธรณ์ จำนวน 4 คน ได้แก่
1. นายเศกสิทธิ์ สุขใจ ได้ 590 คะแนน ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1
2. นายเจริญวิทย์ เกื้อทิพย์ ได้ 582 คะแนน ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์
3. นายณรัช อิ่มสุขศรี ได้ 467 คะแนน เลขานุการศาลอุทธรณ์
4. นายอมรพจน์ กุลวิจิตร ได้ 370 คะแนน ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ประเภท ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิชั้นศาลชั้นต้น จำนวน 2 คน ได้แก่
1. นายสุพจน์ หนูเกลี้ยง ได้ 1,301 คะแนน ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแพ่ง
2. นางสาวฉันทนา เจริญศักดิ์ ได้ 778 คะแนน รองเลขาธิการสถาบัน ฯ ช่วยทำงานชั่วคราว ในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกอง ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
สำหรับ ก.ต. นั้นเป็นองค์กรทำหน้าที่ในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม มีหน้าที่ในการพิจารณาเเต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนชั้น มีอำนาจให้คุณให้โทษ ผู้พิพากษาที่กระทำความผิดรวมถึงคุ้มครองความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี โดย ก.ต. ทั้งคณะจะมีทั้งหมด 15 คน ประกอบด้วยประธานศาลฎีกา เป็นประธานก.ต.โดยตำแหน่ง มี ก.ต.ชั้นศาลฎีกา 6 คน ชั้นศาลอุทธรณ์ 4 คน และศาลชั้นต้น 2 คน และ ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากบุคคลภายนอกอีก 2 คน ที่มาจากการเลือกของผู้พิพากษาเเละมีกำหนดอยู่ในตำแหน่งวาระละ 2 ปี และติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 วาระ