เสียดายงบ 95 ล้านบาท พัทยาทำโครงกากังหันลมพัทยา-อาคารปลากระเบน สูญงบปล่อยพังไม่เป็นท่าหลังใช้งานไม่นาน ถอดบทเรียนที่น่าช้ำใจอีก 1 ในหลายโครงการที่สร้างแล้วไม่ได้ใช้ ทำความเสียหายต่องบประมาณของแผ่นดิน บนพื้นที่เมืองพัทยา
 
       จากกรณีที่เมืองพัทยา ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนา ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ บนพาเขานมสาว หน้าหาดแสม ชุมชนบ้านเกาะล้าน จ.ชล บุรี เพื่อแก้ไขปัญหาความขาดแคลน และลดการใช้พลังงาน โดยแผนโครงการติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้า จากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ บนพื้นที่เกาะล้าน ในระยะที่ 1 นี้ ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้รับการว่าจ้างจากเมืองพัทยาให้เข้ามาดำเนินการจัดทำ ในงบประมาณจำนวนกว่า 84 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาความขาดแคลนด้านพลังงาน โดยได้ตกลงเซ็นสัญญาจ้างในลักษณะรัฐต่อรัฐ ซึ่งใช้งบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 95 ล้านบาท และพร้อมเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.2549 เป็นเวลา 300 วัน 

       ทั้งนี้โครงการดังกล่าว จะมีการก่อสร้างอาคารเพื่อควบคุมการทำงานของระบบ 1 หลัง อาคารปลากระเบน 1 หลังเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการท่องเที่ยวและจัดนิทรรศการบนเกาะล้าน รวมทั้งการติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลม หรือกังหันลม บริเวณเนินนมสาว หาดแสม เกาะล้าน จำนวนทั้งสิ้น 45 ชุด เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 200 กิโลวัตต์ ก่อนจะจ่ายกระแสเข้าสู่ระบบการบำบัดน้ำเสียและไฟแสงสว่างบริเวณหาดแสม ซึ่งเมืองพัทยามีเป้าหมายที่จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการโดยเร็ว และคาดหมายว่าจะทำให้เมืองพัทยาสามารถประหยัดในด้านภาระการลงทุนในเรื่องค่าน้ำมันเชื้อเพลิง รวมไปถึงการสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เกี่ยวกับการบริการทางด้านศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่

       สำหรับ“ฟาร์มกังหันลม” บน “เนินนมสาว” มีกังหันลมทั้งหมด 45 ต้น และอาคารปลากระเบนที่มีหลัง คาเป็นแผงโซล่าร์เซลล์รับพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 200 กิโลวัตต์ ก่อนจะจ่ายกระแสเข้าสู่ระบบการบำบัดน้ำเสียและไฟแสงสว่างบริเวณหาดแสม รองรับประชาชนบนเกาะล้าน 489 หลังคาเรือน ประมาณ 3,000 คน หลายคนแปลกใจที่ทำไมโครงการนี้ไม่ค่อยมีการเผยแพร่ขอมูลออกสู่สังคมมากนัก ทั้งที่อ้างว่าเป็นโครงการพลังงานสะดากโครงการแรกของไทย

 
       อย่างไรก็ตามหลังก่อสร้างเสร็จในระยะที่ 1 ในช่วงปี 2553 แต่เมื่อระยะเวลามา 5 ปี กลับพบว่าทุกวันนี้กังหันลมไม่สามารถผลอตกระแสไฟฟ้าได้อีกต่อไป ตากการสอบถามผู้ชำนาญการทราบว่าระบบนี้จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการดูแลและซ่อมลบำรุงสูงอายุการใช้งาน ทำให้ราคาต่อหน่วยแพงมาก แต่เมืองพัทยาก็คิดว่าแม้จะผลิตกระแสไฟไม่ได้ก็ส่งสเริมาพการท่องเที่ยวเพื่อให้คนไปถ่ายรูปก็ยังดี ปัจจุบันหลังดำเนินการโครงการแล้วเสร็จ เมืองพัทยากลับไม่มีโครงการผลักดันงบเพื่อจะมาสานต่อหรือพัฒนาและปรับปรุงเพิ่มเติมโครงการให้เกิดความเป็นเสถียรภาพสามารถใช้งานได้ในระยะยาว หรือเพิ่มกำลังผลิตเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ แต่สุดท้ายกลับปล่อยทิ้งไว้เป็นซากวัสดุ สิ่งของ ที่ใช้ เตือนใจพี่น้องประชาชนคนไทย ว่างบประมาณกว่า 95 ล้านบาท ที่นำไปสร้างกังหังนลมและอาคารปลากระเบนนั้น เป็นไปย่างไม่สมประโยชน์ และปัจจุบันทุกอย่างกำลังผุผังจนไม่สามารถปรับปรุงและซ่อมแซมได้อีก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก เพราะใช้ประโยชน์ระสั้นเทียบกับงบประมาณ 95 ล้านบาท มันไม่คุ้มค่าเลยสักนิด แทนที่จะนำงบเหล่านี้ไปใช้ในการพัฒนาด้านการศึกษา สถานพยาบาล หรือพัฒนาคุณภาพชิตของคนเกาะล้านยังจะดีเสียกว่า

     ล่าสุดทราบว่ามีหลายหน่วยงานทั้ง ปปช.สตง.ปปท เข้ามาดำเนินการตรวจสอบโครงการว่ามีความผิดปกติและมเรื่องของผลประโยชน์แอบแฝงอย่างใดหรือไม่ ซึ่งคาดว่างานนี้คงต้องมีคนสรับผิดชอบ ส่วนผลจะออกมาเป็นเช่นไรคงจะมีคำตอบที่ชัดเจนในเร็ววันนี้...